ทรงเดิมอีกแล้ว!โมนิก้าและทีมงาน

*ในบรรดาเสี่ยๆ ที่คลุกคลีอยู่ในวงการตลาดหุ้น “โมนิก้า” กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า คนเหล่านี้รักความผาดโผนเป็นชีวิตจิตใจ อะไรเป็นประโยชน์สำหรับแก๊งก๊วนตัวเอง เอาหมดทุกอย่าง! ไม่สนใจว่า พื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ จะเป็นอย่างไร เพราะต้องการแค่กอบโกยกำไรจากหุ้นที่กลุ่มตัวเองช่วยกันทำขึ้นไป แต่สุดท้ายมักทุบหุ้นแหลกคามือเป็นประจำ หรือบางครั้งก็หักหลังกันเองนั้น..เขาถึงเรียกว่า มันนี่เกม! ไงล่ะค่ะ


*ในบรรดาเสี่ยๆ ที่คลุกคลีอยู่ในวงการตลาดหุ้น “โมนิก้า” กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า คนเหล่านี้รักความผาดโผนเป็นชีวิตจิตใจ อะไรเป็นประโยชน์สำหรับแก๊งก๊วนตัวเอง เอาหมดทุกอย่าง! ไม่สนใจว่า พื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ จะเป็นอย่างไร เพราะต้องการแค่กอบโกยกำไรจากหุ้นที่กลุ่มตัวเองช่วยกันทำขึ้นไป แต่สุดท้ายมักทุบหุ้นแหลกคามือเป็นประจำ หรือบางครั้งก็หักหลังกันเองนั้น..เขาถึงเรียกว่า มันนี่เกม! ไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่ต้องถามถึง หรือกล่าวโทษใครให้เสียเวลา เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ หรือเที่ยวก่อนๆ มันก็ยังอยู่ที่ขาใหญ่กำลังทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ศิษยานุศิษย์ตั้งตาคอย แต่หารู้ไม่ว่า พอแมงเม่าวัยละอ่อนกระโจนเข้าไปปุ๊บ พวกขาใหญ่ก็สาดหุ้นใส่ปั๊บ ยังจำได้ไหมเอ่ย? โดยประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้คนในวงการตลาดหุ้นซุบซิบนินทากันมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าค่ะ

*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากแนวความคิดของแมงเม่ารุ่นใหม่ยังตามก้นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ภาพของการลงทุนในช่วงหลังถึงไม่ค่อยมีอะไรพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ เพราะหุ้นขนาดใหญ่ถูกกำหนดทิศทางจากฝรั่งตาน้ำข้าว และกองทุนขี้ตืด ส่วนหุ้นขนาดเล็กถูกชี้เป็นชี้ตายจากก๊วนขาใหญ่ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับบาลานซ์พอร์ตของตัวเองให้มีความคล่องตัวมากขึ้นพะยะค่ะ

*เนื่องจากอาการแกว่งตัวไปมาของดัชนีตลอดทั้งวัน ทำให้ล่วงรู้ถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่ง ลักษณะการเข้าลงทุนยังเป็นแบบสั้นๆ และเมื่อพิจารณาดูจากดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,401.06 จุด หลังจากนั้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,417.49 จุด บวกไป 9.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ยังมองไม่เห็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ดัชนีขึ้นอย่างถาวรเลยนะจะบอกให้

*เหมือนกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ทั้งในรายของ KBANK SCB BBL ล้วนตกอยู่ในสถานการณ์ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” ข่าวดีไม่ปรากฏ ข่าวร้ายโผล่พรึบพรับ  แรงซื้อถึงหดหายไปอย่างผิดหูผิดตา โอกาสที่หุ้นจะเด้งขึ้นอย่างแข็งแกร่งยังเป็นเพียงแค่ฝันลมๆ แล้งๆ เพราะกลุ่มนักเล่นหันไปลงทุนหุ้นกลุ่มอื่นเป็นการทดแทน ราคาหุ้นถึงได้ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ ไงล่ะค่ะ

*ส่วนหุ้นในกลุ่ม PTT PTTEP PTTGC และTOP ก็มีสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ แต่ที่ดีอยู่นิดหนึ่งคือ เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาประปราย จากสถานการณ์ที่ร้ายๆ เลยกลายเป็นสถานการณ์ที่ทุเลาขึ้น แต่ยังมองไม่เห็นโอกาสที่หุ้นทั้งกลุ่มจะยกแผงขึ้นแบบหน้ากระดาน  “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับจังหวะการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวให้ดีๆ เพราะบางตัวยังโค้งตัวลงอยู่เลยนะจะบอกให้

*ตรงกันข้ามกับในรายของ CPALL ดูผิวเผินเหมือนเป็นหุ้นที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่หารู้ไม่ว่า หุ้นตัวนี้ปักหลักสร้างฐานแถว 45 บาทมานานถึง 3 เดือน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นตัวนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 47 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 950 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งทะลุแนวต้าน 48 บาทค่อนข้างสูง หลังจากในช่วง 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ทำไม่ได้สักทีเจ้าค่ะ

*สำหรับหุ้นน้องใหม่ไฟแรงอย่าง PK เมื่อดูตามเนื้อผ้าจะเห็นว่า การคัมแบ็กครั้งนี้ยังไม่มีนัยสำคัญ ทุกอย่างยังเป็นเรื่องความคาดหวังจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เมื่อดูตัวเลขในไตรมาส 1 ทำได้แค่ 16 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น ตัวเลขทั้งปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น และเมื่อคิดบนฐานค่า P/E 25 เท่า ราคาเป้าหมายเที่ยวนี้น่าจะอยู่ที่ 4 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดปิดที่ 3.92 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 30% ยังจะมีแก๊ปให้เล่นอีกไหมล่ะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ VNG ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรโดยตรง บวกกับมีการทำนายทายทักตัวเลขปี 58 น่าจะเติบโตเป็นเท่าตัวจากปี 57 แถมเมื่อดูจากค่า P/E ที่ระดับ 20 เท่า ย่อมกระตุ้นให้นักล่าหุ้นร้อนกระโจนเข้าใส่เป็นพัลวัน หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 13.60 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 220 ล้านบาท..งานนี้เตือนได้แค่ระวังจะช็อกตายกลางอากาศนะจะบอกให้

*ขนาดสิ่งมีชีวิตเล็กๆ LIVE คิดว่าเก๋าเกมส์ และมีแบ็กคอยหนุนหลังดี  พอเอาเข้าจริงๆ แทบกระอักเลือดตาย และที่น่าแปลกใจตรงที่ พอเปิดหน้าค่าตาให้ทุกคนรู้ว่า “วรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล” ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับก๊วน “เสี่ยจึง” เข้ามากวาดหุ้นเข้าพอร์ตไปกว่า 5%  กลับโดนถล่มเทขายหุ้นแบบไม่ยั้ง จนหุ้นรูดลงไปทำจุดต่ำสุด 0.66 บาท แต่สุดท้ายมีการงัดกลับขึ้นมาปิดเสมอตัวที่ 0.90 บาท มันเป็นเกมโหดที่แมงเม่ามีแต่เจ็บตัวเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับกรณีหุ้นร้อน TSF ไม่ได้มีอะไรที่เป็นกิมมิคสำคัญสักเท่าไหร่ มุกเก่าเรื่องเทิร์นอะราวด์ถูกขุดออกมาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่า บวกกับเจ้ามือที่เข้ามาทำมีอาการใจเสาะมากเกินไป หุ้นก็เลยวิ่งไปไม่ถึงไหนสักที ล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ 0.40 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 25% พร้อมกับยืนแท่นอันดับ 1 ของกระดาน mai “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่เหมาะสำหรับคนที่คิดว่าเป็น VI..VI (ไวไว) เท่านั้นเจ้าค่ะ

Back to top button