MINT ยังมีอัพไซด์ให้เล่น เป้าใหม่ 34 บ.คาด Q2/58 ต่ำสุด ก่อนดีขึ้นในครึ่งปีหลัง
แม้ MINT จะถูกปรับลดกำไรปี 2558 ลงจากเดิม 16.7% สะท้อนธุรกิจอาหารชะลอตัวและค่าใช้จ่ายสูงกว่าคาด แต่แนวโน้มกำไรปกติปี 2558 เพิ่มขึ้น 6% และ FV ใหม่ มี upside 16% โบรกฯจึงยังแนะนำซื้อ คาด 2Q58 ต่ำสุดของปี ก่อนฟื้นตัว 3Q58 และลุ้นพีก 4Q58
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (31 ก.ค.) ว่า กำไรปกติไตรมาส 2/58 ของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ใกล้เคียงงวดปีก่อนที่ 552 ล้านบาท แม้ธุรกิจโรงแรมและรับบริหารคาดเติบโต 14% จากปีก่อน จากพอร์ตจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้น 3.6 พันห้อง หลักๆ มาจากการซื้อกิจการโรงแรมในกลุ่ม Sun และ Tivoli 8 แห่ง รวม 2 พันห้อง ที่เหลือมาจากการรับบริหารโรงแรมเพิ่ม
ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักโดยรวมลดลง 5% จากปีก่อน เนื่องจากถูกกดดันจากโรงแรมใหม่ที่มีค่าห้องพักต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ คาดรายได้ลดลง 10% จากปีก่อน เป็น 613 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสนี้ไม่มีการโอนฯ คอนโดฯ St Regis เหมือนงวดปีก่อน ส่วนธุรกิจอาหาร ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และการปิดสาขาร้านอาหารในสิงคโปร์ กดดันให้ยอดขายร้านอาหารเดิมเติบโตติดลบ 1.6% แต่เมื่อชดเชยกับการขยายสาขาร้านอาหารใหม่เพิ่ม 155 สาขาจากฐานไตรมาส 2/57 ทำให้ธุรกิจอาหารเติบโตรวม 11% จากปีก่อน
ภาพรวมประเมินรายได้จากการดำเนินงาน 8.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อน แต่ด้วยแนวโน้มมาร์จิ้นธุรกิจอาหารที่ลดลงตามการชะลอตัวของยอดขายร้านอาหารเดิมคาดกดดันให้ Gross Margin เฉลี่ยลดลงอยู่ที่ 54.5% ทำให้ Norm Profit Margin ทรงตัว 6.2%
ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการปี 2558 สะท้อนทิศทางครึ่งปีแรกของปี 58 ที่ต่ำกว่าคาด จากผลกระทบของธุรกิจอาหารชะลอตัวและต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงกว่าคาด ส่งผลให้กำไรปกติลดลงจากประมาณการเดิม 16.7% อยู่ที่ 4.59 พันล้านบาท แต่ยังเติบโต 6% จากปีก่อน โดยคาดหวังแนวโน้มครึ่งปีหลังของปี 58 ฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากธุรกิจโรงแรมทั้งหมดล่าสุดวันที่ 1-22 ก.ค. 2558 มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน
อีกทั้งจะมีการเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้การลงทุนเอง 1 แห่งและรับบริหารเพิ่ม 2 แห่ง ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายที่พักอาศัยในโครงการ Anantara ภูเก็ต ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้ว 4 ยูนิต (จากทั้งหมด 15 ยูนิต) และมีลูกค้าสนใจจองแล้ว 6 ราย สมมติฐานคาดจะบันทึกรายได้ขายได้ 2 ยูนิต ๆ ละ 10 ล้าน USD ส่วนธุรกิจอาหาร แม้จะยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน แต่ก็มีแรงหนุนจากการขยายสาขาร้านอาหารใหม่เพิ่มต่อเนื่อง
ภายใต้ประมาณการใหม่ กำหนด Fair Value ได้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2558 ที่ 34.00 บาท (เดิม 39.00 บาท) ยังมี upside 16% จึงยังแนะนำซื้อ