ILINK บวก3วัน พุ่ง11% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า5.10บ. คาดกำไรไตรมาส 4/62 โต 22% แตะ78ลบ.

ILINK บวก3วัน พุ่ง11% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูเป้า5.10บ. คาดกำไรไตรมาส 4/62 โต 22% แตะ78ลบ. โดย ณ เวลา 15.55 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 3.92 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 5.38% สูงสุดที่ระดับ 3.98 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.74 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.44 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ณ เวลา 15.55 น. อยู่ที่ระดับ 3.92 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 5.38% สูงสุดที่ระดับ 3.98 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.74 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.44 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น ILINK ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.54 บาท เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 63 คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมา 0.38 บาท หรือ 10.73%

ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ”  ILINK ให้ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท/หุ้น โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ILINK ในช่วงไตรมาส 4/62 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 64 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 236% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 4/62 คาดว่าจะมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 3 ล้านบาท จากเงินบาท/ยูโรอ่อนค่าลง 1% เทียบกับไตรมาสก่อน (ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า 48 ล้านยูโร อิงอัตราแลกเปลี่ยน 39 บาท/ยูโร)

ขณะที่ธุรกิจปกติในไตรมาส 4/62 มีกำไรอยู่ที่ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรปกติอยู่ที่ 64 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่ารายได้รวมอยู่ที่ 1,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,392 ล้านบาท เป็นไปตามรายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณเติบโตสูง จากการส่งมอบสินค้าที่เหลือมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ของงานปรับปรุงระบบโครงข่ายสื่อสารทหาร และรายได้ธุรกิจโทรคมนาคม เติบโตจากการส่งมอบงานโครงข่าย USO เฟส 2 เพิ่มขึ้น

โดยการเติบโตของรายได้ 2 ธุรกิจดังกล่าว ช่วยชดเชยรายได้ธุรกิจวิศวกรรมที่คาดว่าจะลดลงตามการส่งมอบงานของงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เดิม และเซ็นสัญญางานใหม่น้อย ประกอบกับค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้รวมมีสัดส่วนลดลงเหลือ 8.7% จาก 9.2% ในไตรมาสเดียวกันปีก่อน และ 6.8% ในไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ตาม กำไรปกติในไตรมาส 4/62 ลดลง 23% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรปกติอยู่ที่ 98 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมลดลง 16% จากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,828 ล้านบาท จากธุรกิจโทรคมนาคมมีผลกระทบรอยต่องบประมาณปี 2563 ของลูกค้าภาครัฐ และธุรกิจวิศวกรรมส่งมอบงานน้อย

ขณะเดียวกันคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมในไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 17.1% ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 20.3% ตามมาร์จิ้นของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณถูกกดดันด้วยการแข่งขันสูง และมาร์จิ้นของธุรกิจโทรคมนาคมมีผลกระทบจากต้นทุนค่าเช่าท่อใต้ดินสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 15.7% ตามมาร์จิ้นของทั้ง 3 ธุรกิจหลัก โดยธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ มีผลบวกยอดขายสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ที่มีมาร์จิ้นสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ประกอบกับธุรกิจวิศวกรรม และธุรกิจโทรคมนาคมมีมาร์จิ้นฟื้นตัวจากฐานต่ำ รวมทั้งคาดว่ามี EBITDA margin อยู่ที่ 13.2% ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน เป็นไปตามทิศทางอัตรากำไรขั้นต้นรวม

ทั้งนี้ หากกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4/62 เป็นไปตามคาดจะทำให้ในปี 2562 กำไรสุทธิอยู่ที่ 162 ล้านบาท ลดลง 38% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 261 ล้านบาท หากหักรายการพิเศษที่เป็นค่าใช้จ่ายรวม 153 ล้านบาท คาดว่าธุรกิจปกติมีกำไรอยู่ที่ 315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 คาดว่ากำไรปกติเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อน มีปัจจัยบวกจากการเติบโตของรายได้รวม และมาร์จิ้นของทั้ง 3 ธุรกิจดีขึ้น รวมทั้งเห็น upside ของกำไรปี 2563 จากธุรกิจโทรคมนาคม

Back to top button