ในร้ายก็มีดี
*ทุกครั้งที่เหลือบไปเห็นกองทุนตัวแสบใช้ยุทธวิธีสาดหุ้นใส่ หลังจากไล่ราคาหุ้นขึ้นมาได้ไม่กี่วัน “โมนิก้า” มักเกิดอาการเซ็งเป็ดจนทำอะไรไม่ถูกเป็นประจำ เพราะมันทำให้รู้ว่าเกมหุ้นเที่ยวนี้เป็นการดันหุ้นเพียว ๆ โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งส่งผลให้การขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดเป็นเพียงพิธีกรรมที่ทำให้ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยจะไปได้ไกลเท่านั้นเองพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ทุกครั้งที่เหลือบไปเห็นกองทุนตัวแสบใช้ยุทธวิธีสาดหุ้นใส่ หลังจากไล่ราคาหุ้นขึ้นมาได้ไม่กี่วัน “โมนิก้า” มักเกิดอาการเซ็งเป็ดจนทำอะไรไม่ถูกเป็นประจำ เพราะมันทำให้รู้ว่าเกมหุ้นเที่ยวนี้เป็นการดันหุ้นเพียว ๆ โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งส่งผลให้การขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดเป็นเพียงพิธีกรรมที่ทำให้ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยจะไปได้ไกลเท่านั้นเองพะยะค่ะ
*เมื่อรูปการณ์ออกมาในโทนนี้ก็ต้องย้ำเตือนกันอีกหนว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นเป็นอันขาด และควรโฟกัสไปที่ตลาดหุ้นไทยแกร่งขนาดไหน ? หลังตัวเลขซื้อขายสุทธิวานนี้ชี้ว่า ฝรั่งหัวทอง กับ แมงเม่า ช่วยกันรับของที่โดนสาดใส่กันอย่างเต็มที่ ก็ไม่สามารถช่วยยันดัชนีให้ยืนในแดนบวกได้แบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่แมงเม่าต้องนำไปเป็นบทเรียนสำหรับการเคาะขวาในวันข้างหน้านะจะบอกให้
*วันนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องถามความรู้สึกส่วนตัวเมื่อเห็นดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,523.93 จุด ลบไป 11.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.26 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเรื่องเดิมที่เคยรับรู้กันมาตั้งนมนานแล้วว่า ยืนไม่ได้! จึงรู้สึกเฉย ๆ กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเวลานี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดอาการแฮปปี้เมื่อเห็นหุ้นบางตัวบวกสวนได้อย่างสะแด่วแห้ว เพราะมันหมายถึงมีข่าวดีแบ็กอัพไงล่ะคะ
*เหมือนกับในรายของ BAM ทะยานขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 31.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.19 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักเล่นต้องเริ่มหยุดคิดกันนิดหนึ่งว่า ราคาหุ้นวิ่งทะลุเป้าที่พรายกระซิบสำนักต่าง ๆ เคยเม้าท์กันให้แซ่ดแบบนี้ วันนี้หุ้นยังมีโอกาสไปต่อไหม ? เพราะข่าวที่ได้ยินมาเขาเม้าท์กันว่า ถึงเวลาต้องพักฐานแล้ว จริงหรือไม่..ต้องติดตามดูกันเอาเองนะคะ
*อีกรายที่น่าแปลกใจเหลือเกิน “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้นบัตรเครดิต KTC เป็นรายถัดไปในทันที เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 38.75 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 7.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 635 ล้านบาท พร้อมกับเป็นการกระชากขึ้นแรงเป็นครั้งที่ 2 มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณการกลับทิศจาก “ขาลง” กลายเป็น “ขาขึ้น” น่าจะเป็นจังหวะไหลตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก..แมงลือเขาว่าไว้อย่างนั้นเจ้าค่ะ
*ส่วนรายที่ “น่าตามติด ชิดขอบรั้ว” แบบไม่ควรกะพริบตา “โมนิก้า” ให้น้ำหนักไปที่หุ้นการเมืองตัวบักเอ้บอย่าง STEC เป็นโมเดลนำร่องสำหรับคนชอบเสี่ยง เพราะเป็นที่รับรู้อย่างหมดไส้หมดพุงว่า เมื่อรัฐบาลได้สิทธิ์โหวตงบประมาณใหม่ (ทำให้ถูกต้อง) การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็จะทำได้คล่องตัว ทุกคนเลยเชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 16.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 756 ล้านบาทไงล่ะคะ
*เมื่อทุกคนเชื่อว่าเมกะโปรเจกต์จะเดินหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ย่อมส่งผลให้หุ้นสินเชื่อสิบล้อได้รับอานิสงส์ผลบุญเต็ม ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ THANI เด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.95 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 128 ล้านบาท แถมเป็นการขึ้นแรงวันแรกเสียด้วยแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมเชียร์ให้พวกขาลุยเดินหน้าใส่เต็มตัวไปเลย เพราะสตอรี่ที่เขาเม้าท์ให้ฟังมันเป็นแบบนี้นะตัวเอง
*อีกหนึ่งสตอรี่เด่นที่ “โมนิก้า” อยากนำเสนอสุด ๆ คงต้องยกพื้นที่ตรงนี้ให้กับหุ้น JMART เพื่อบอกเล่าถึงพัฒนาการของตัวเลขกำไรยังเป็นไปตามแผน ผสานกับการเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจก็คืบหน้าไปมาก หรือแม้กระทั่งเครื่องมือการเงินยังมีข่าวคราวออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองการถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 9.95 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 127 ล้านบาท มันเพิ่งเป็นการเขี่ยลูกเล่นใช่หรือเปล่า ? เดี๋ยวจะหาว่าเดี๊ยนมีอะไรดีแล้วไม่บอกนะคะ
*เม้าท์ถึงเรื่องต้องคิดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงหันไปมองหุ้น OTO เพื่อให้ผู้รู้ช่วยคลายความสงสัยถึงเหตุการณ์ที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.04 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 24.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาท มันเกิดจากประเด็นอะไรกันแน่ ? แถมปีที่ผ่านมาเพิ่งเกิดรายการลากไปเชือดให้เห็นกันหยก ๆ เดี๊ยนเลยไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรนอกเหนือไปจากสิ่งที่เคยรับรู้เจ้าค่ะ