KCE กินเลือดกันเอง

สำนักข่าวรัชดา

ช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เกิดปรากฏการณ์วิ่งพรวดพราด ขึ้นมา ท่ามกลางความฉงนของนักลงทุน

ทั้ง ๆ ที่เงินบาทก็แข็งค่า สงครามการค้าระหว่างฝรั่งบ้าอำนาจกับอาตี๋ใหญ่แดนมังกรก็ยังไม่จบ และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แถมยังเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ซ้ำเติมอีก แต่ราคาหุ้น KCE ก็ยังวิ่งขึ้นสวนปัจจัยลบ แบบ Noสน Noแคร์ ซะงั้น…

ทำให้มีนักลงทุนบางคนกลัวตกขบวน ก็เลยไล่ซื้อตาม…แต่ขึ้นไปถึงจุดหนึ่งก็ไปไม่รอด มีการเทขายทำกำไรออกมา

ในระหว่างนั้นมีการขายสตอรี่ที่ว่า จะมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งสุดท้ายก็ไม่มี…

ปรากฏการณ์ตรงนี้มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า เกิดจากฝีมือของนักลงทุนรายใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่ทำตัวเป็น “เจ้ามือ” พยายามสร้างราคา จากราคา 13 บาทกว่า ๆ ไปแตะที่ระดับ 26 บาท โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกรองรับ

และมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างอีกว่า กลุ่มนี้ทำไม่สำเร็จ…ลือกันว่า เป้าหมายต้องการลากไปเชือดแถว ๆ 30 บาท แต่เกิดอาการฝันค้าง ไปไม่ถึงดวงดาว เนื่องจากไม่มีใครตาม (สงสัยนักลงทุนจะรู้ทันมุกเดิม ๆ)

ทำให้เจ้าบางคนติดหุ้นตัวนี้ ออกไม่ได้ เลยต้องกินเลือดกันเอง…

ล่าสุดตอกย้ำด้วยงบปี 2562 ที่เพิ่งประกาศออกมา กำไรสุทธิหายไปกว่า 1,000 ล้านบาท เหลือแค่ 934 ล้านบาท ลดลง 53.6% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,015 ล้านบาท

ขณะที่รายได้จากการขายรวมของกลุ่มในรูปเงินบาทลดลง 13.5% อยู่ที่ 12,094 ล้านบาท ส่วนยอดขายในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 9.8% เหลือแค่ 393 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สาเหตุหลักมาจากมูลค่าการส่งออกในครึ่งปีแรกของปี 2562 ลดลง หลังจากมีการบังคับใช้ระบบการทดสอบแบบใหม่ WLTP รวมทั้งได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทต่อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ และเงินสกุลยูโร ซึ่งส่งผลให้รายได้ในรูปเงินบาทลดลงถึง 534 ล้านบาท

สวนทางกับต้นทุนขายที่สูงขึ้น จากปี 2561 มีสัดส่วนเท่ากับ 74% เพิ่มเป็น 80% ในปี 2562 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 20% จาก 26% ในปีก่อน

ยิ่งตอกย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผิดวิสัยปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง แต่ดูแล้วเป็นการทำราคาของนักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่ม ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกินเลือดกันเองอย่างที่เห็น…

แต่ที่เห็นราคาหุ้น KCE วานนี้ ยังวิ่งร้อนแรง โดยปิดตลาดที่ระดับ 22.40 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 2.20 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 10.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,556 ล้านบาท

เรียกว่า เป็นอาการยังดื้อมือ…

ซึ่งถ้ามองแบบโลกสวยอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์…ต้องบอกว่า เป็นเพราะผลงานที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ นักลงทุนจึงเข้าไปเก็บหุ้นเพิ่ม

แต่ถ้ามองจากข้อเท็จจริง นั่นแสดงว่า เจ้ากลุ่มนี้ยังไม่ได้ใส่เกียร์ R (ตัวเองคงติดหุ้นราคาสูง) แต่กลับเหยียบคันเร่งเต็มที่ เพื่อหวังให้บรรลุเป้าหมาย (สงสัยถือคติที่ว่า เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน แต่มีเป้าหมายแบบนี้ไม่ค่อยน่ารักเลยนะ) จึงเห็นปรากฏการณ์ราคาหุ้น KCE วิ่งสวนทางกับตัวเลขขาดทุน…

ดังนั้น ใครที่อยากลองของ ก็อย่าลืมคาถา “เข้าให้เร็ว ออกให้ทัน” ก็แล้วกัน

เพราะไม่รู้วันไหนเจ้าจะออกลาย…

…อิ อิ อิ…