HMPRO กำไรดีเสมอ

ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เริ่มทยอยประกาศออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว หลังจากที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศออกมาครบถ้วนแล้วก่อนหน้า ในที่สุดถึงคิว HMPRO ประกาศผลประกอบการออกมาแล้วมีความสดใส เนื่องจากรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างชัดเจน


ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เริ่มทยอยประกาศออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว หลังจากที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศออกมาครบถ้วนแล้วก่อนหน้า ในที่สุดถึงคิว บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ประกาศผลประกอบการออกมาแล้วมีความสดใส เนื่องจากรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างชัดเจน

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่  14,119.01 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 12,788.24 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ที่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากยอดขายสาขาของโฮมโปร เมกา โฮม ยอดขายของโฮมโปรที่ประเทศ มาเลเซีย ที่เปิดตั้งแต่ปี 2557 ทั้งนี้สาขาในเขตกรุงเทพฯยังคงมีอัตราการเติบโตของยอดขายดีกว่าต่างจังหวัด

อีกทั้งมีรายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น มาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นของศูนย์การค้าสุวรรณภูมิมาร์เก็ตวิลเลจศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ และรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่าเพิ่มเติมของสาขาโฮมโปร และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ค่าโฆษณา และรายได้จากการส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า และรายได้จากค่าบริการ “โฮมแคร์” จากลูกค้า ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 820.18 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 792.78 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวม 27,215.29 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 24,614.41 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,553.86 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,518.51 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้นผลดังกล่าวเป็นการยืนยันว่าบริษัทยังแข็งแกร่งอยู่

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรต่อการตัดสินใจในการลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินไม่ได้แย่สักเท่าไร เนื่องจากมีเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นจำนวน 12,142.22 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนทั้งสิ้น 16,790.53 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับสินทรัพย์หมุนเวียน 12,818.90 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio ที่ระดับ 0.77 เท่า อาจเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยสวยก็จริง แต่เป็นระดับที่ไม่อันตราย

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงจริงๆ กลับอยู่ตรงที่หนี้สินรวมที่มีอยู่ 29,292.17 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้มาจากหุ้นกู้-ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 10,050 ล้านบาท และเมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 16,297.71 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 1.80 เท่า ต้องยอมรับว่าบริษัทมีการแบกรับภาระหนี้สินมากเกินไปจริงๆ ดีที่บริษัทสามารถทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง ปัญหาต่างๆ เลยดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.05 บาทต่อหุ้น

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 3,727,386,030 หุ้น 30.23%

2.บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 2,449,709,155 หุ้น 19.87%

3.นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 582,577,277 หุ้น 4.73%

4.นายมานิต อุดมคุณธรรม 319,679,998 หุ้น 2.59%

5.AIA Company Limited-DI-LIFE 295,484,419 หุ้น 2.40%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ

2.นายมานิต อุดมคุณธรรม ประธานกรรมการบริหาร

3.นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ

4.นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการ

5.นายมานิต อุดมคุณธรรม กรรมการ

Back to top button