หุ้นกับทองคำ
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งเหว
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งเหว
ปิดตลาดร่วงไป 59.53 จุด มาที่ 1,435.56 จุด เปลี่ยนแปลง -3.98%
ตัวเลขดัชนีดังกล่าว เป็นระดับต่ำสุดของวานนี้เลยล่ะ
และที่น่าสนใจคือ ของเรานั้น กลับร่วงลงหนักมากสุดในเอเชีย
ปัจจัยลบมาจากเรื่องเดียว นั่นคือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลก
และแบบรวดเร็วมาก ๆ
แน่นอนว่า สถานการณ์แบบนี้
นักลงทุนย่อมต้องการทราบว่า กรณีเลวร้ายสุด หรือ Worst-case นั้น จะไปสิ้นสุดตรงไหน
และตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
ปุจฉานี้ ยากต่อการวิสัชนา มาก ๆ
นักวิเคราะห์เองนั้น ไม่สามารถที่จะตอบได้ เพราะเป็นเรื่องทางการแพทย์
แม้จะมีการนำกรณีโรคระบาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาเทียบเคียง
ทว่า ก็ไม่สามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบได้มากนัก
อย่างกรณีโรคซาร์สนั้น ในช่วงเกิดการระบาด ดัชนีปรับลงไปเพียง 2.84% เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หุ้นทั่วโลก (รวมถึงของประเทศไทย) ต่างมองในแง่ดีว่า การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 น่าจะถูกควบคุมได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้
แต่นั่นเป็นพียงการคาดการณ์จากบุคลากรทางการเงิน การลงทุน
ไม่ได้มาจากการคาดหมายจากบุคคลในวงการสาธารณสุข
เมื่อไม่สามารถหาจุดที่แย่สุดได้
เราก็ไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่า ตลาดหุ้นไทยจะร่วงไปถึงตรงไหน อย่างไร
อย่างมากที่พอจะคาดได้คือการดู “สัญญาณทางเทคนิค” นั่นแหละ
อย่างวันนี้ (25 ก.พ.) นักวิเคราะห์มองว่า ดัชนีอาจจะมีการรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง
แต่ไม่น่าจะนานนัก
เพราะนักลงทุนเอง น่าจะมีทั้งขายเพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด
หรือบางคน พอได้ซัก 2-3 ช่อง ก็ขายทำกำไรไปก่อนแล้ว
คงไม่ได้ถือนานกันแน่นอน
ยกเว้น นักลงทุนที่มีเงินสดในมือ และมั่นใจว่า ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวแน่ ๆ (แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่) ก็จะค่อย ๆ ทยอยซื้อหุ้นที่ดีเข้าพอร์ต สะสมไปเรื่อย ๆ
หุ้นลงแรง ๆ แบบนี้
แต่ยังไม่รู้ว่า กรณีแย่สุดจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน
ทางออกที่ดีของคนที่ไม่ต้องการเสี่ยง
ก็คือไม่ต้องลงทุน จึงมีคำแนะนำให้เริ่มหันมาถือเงินสดมากขึ้น
หรือหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ทองคำ
ทองคำตอนนี้ราคากำลังพุ่งพรวดพราดเป็นจรวด
ณ เวลา 18.16 น.ตามเวลาไทย (24 ก.พ.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้น 39.60 ดอลลาร์ หรือ 2.40% สู่ระดับ 1,688.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ตัวเลขเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2556
แนวโน้มของราคาทองคำยังสามารถแกว่งตัวขึ้นได้ หากปัจจัยของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย
แน่นอนจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
นั่นเพราะนักลงทุนจะเข้ามาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
“ซิตี้กรุ๊ป” คาดว่าราคาทองจะพุ่งสูงกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า