WHA ปักเป้าปีนี้ขายที่ดิน 1,400 ไร่ดันรายได้โต20% รุกโซลาร์รูฟท็อป-ขยายคลังสินค้าเวียดนาม

WHA ปักเป้าปีนี้ขายที่ดิน 1,400 ไร่ดันรายได้โต20% รุกโซลาร์รูฟท็อป-ขยายคลังสินค้าเวียดนาม


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น  จำกัด (มหาชน) หรือ WHA  เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 63 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ประมาณ 15-20% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการเน้นย้ำความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจหลัก ๆ ของบริษัท โดยมุ่งขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้ง 4 ธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย

ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ ในปี 63 ตั้งเป้ายอดเช่าอาคารไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,560,000 ตารางเมตร นอกเหนือจากพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในประเทศไทยและอินโดนีเซียแล้ว ยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในเวียดนามด้วย นอกจากนี้บริษัทมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ราว 150,000 ตารางเมตร

ขณะที่ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) อยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11 ของกลุ่ม (นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36) ในช่วงปลายปี 63  และขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 แห่งภายในปี 66  ส่วนนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม บริษัทมีแผนเร่งเพิ่มยอดขาย โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 63  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 1,400 ไร่

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP จะเน้น High Value Product เช่น Reclamation  Water และ Demineralized Water รวมถึงเสริมพอร์ตด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมโซลูชันพลังงาน เช่น Smart Microgrid, Peer-to-Peer Energy Trading และ Energy Storage ในขณะที่ธุรกิจการให้บริการโซลาร์รูฟ ท็อป บริษัทตั้งเป้าเพิ่มการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับลูกค้าทั้งในนิคม WHA Group และนอกนิคม จำนวน 31 เมกะวัตต์ ในปี 63 จากปัจจุบันที่มีการเซ็นสัญญาไปแล้วกว่า 35 เมกะวัตต์ ดันจำนวนเมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 590 เมกะวัตต์

ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ตั้งเป้าสนับสนุนการดำเนินงานทุกรูปแบบในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยการเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดิจิทัล รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล  ช่วงปลายปี 63 จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนในนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่งในประเทศไทย

ส่วนผลการดำเนินงานปี 62 มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไร จากการลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า 13,385.8  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,229.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโต 21.1% ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการโอนที่ดินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายที่ดินทั้งหมดในปีที่ผ่านมา 1,010 ไร่ โดยประมาณ 70% ของยอดขายที่ดินดังกล่าวมาจากกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน และไต้หวัน ที่มีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย จากสถานการณ์สงครามการค้าโลก และต้นทุนการผลิตในประเทศจีนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาค

อีกทั้งการสนับสนุนของภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ผลักดันต่อภาพรวมการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยอดการเช่าพื้นที่สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยมียอดเช่าอาคาร 250,000 ตารางเมตร ซึ่งมาจากการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการอาคารคลังสินค้า เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซสูงขึ้น

สำหรับธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายและให้บริการน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่ออุตสาหกรรมที่ให้บริการตามความต้องการใช้น้ำของลูกค้านิคมอุตสาหกรรมโดยเฉพาะลูกค้าในธุรกิจโรงไฟฟ้า นอกจากนั้นในปี 62 WHA Group ได้เข้าไปลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภคในเวียดนาม ด้วยการเข้าซื้อหุ้นของผู้ประกอบการธุรกิจน้ำประปารายใหญ่ที่สุดในฮานอย ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความสามารถให้บริการสาธารณูปโภคในต่างประเทศ และสร้างโอกาสเติบโตของธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ส่วนของธุรกิจไฟฟ้า บริษัทได้มีการเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้มาตรฐานควบคุมการปล่อยมลพิษของยุโรป ขนาด 8.63 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายปี 62

Back to top button