SUPER กำไรหลอกตา

สำนักข่าวรัชดา

แว่บแรก…เห็นงบปี 2562 ของบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ที่โชว์กำไรสุทธิโตกระฉูด อยู่ที่ 2,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.42% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,045 ล้านบาท

“แหม๊…” รู้สึกเป็นปลื้มแทนผู้ถือหุ้นจริง ๆ

แต่พอมองอีกที ‘เอ๊ะ..! ไม่ใช่นี่หน่า…’เพราะจริง ๆ แล้วกำไรจากการดำเนินงานปกติลดลงด้วยซ้ำ

แต่ที่เห็นกำไรสุทธิโตเท่าตัว เกิดจากบุ๊กกำไรพิเศษจำนวน 1,289 ล้านบาท จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (Super Energy Power plant Infrastructure Fund) หรือ SUPEREIF

ซึ่งถ้าหักตัวนี้ออกไป จะเหลือกำไรสุทธิแค่ 848 ล้านบาทเท่านั้น…ลดลงจากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 1,045 ล้านบาท

กลายเป็นกำไรหลอกตานักลงทุนซะงั้น…

ที่จริงกำไรจากการดำเนินงานปกติของ SUPER น่าจะดีกว่านี้ เพราะต้นทุนทางการเงินจากหนี้ก้อนเดิมหายไป ประมาณ 4,000 ล้านบาท จากการนำเงินจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน SUPEREIF ไปรีไฟแนนซ์หนี้

แต่กลับมีหนี้ก้อนใหม่งอกขึ้นมาอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าในตลาดต่างประเทศ

นั่นทำให้ SUPER ยังมีภาระดอกเบี้ยที่สูง 1,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.65%

ขณะที่ต้นทุนขายก็เพิ่มขึ้น 12.81% อยู่ที่ 2,857 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจาก 505 ล้านบาทในปี 2561 มาอยู่ที่ 567 ล้านบาท ในปี 2562

ส่วนรายได้จากการให้บริการลดลง 16.36% อยู่ที่ 117 ล้านบาท แถมยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 88.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 828.12% จากปี 2561 มีกำไร 12 ล้านบาท

จะเห็นว่า ตัวเลขหลาย ๆ ตัวไม่ดี…ทำให้กำไรที่เห็นเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น…

ก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่า ปี 2563 SUPER จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน..?

สมกับราคาคุยที่ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” ประธานคณะกรรมการ SUPER ตั้งเป้าจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ ทั้งแง่ในรายได้และกำไรได้หรือไม่..?

เนื่องจากโรงไฟฟ้าเวียดนาม 4 โครงการ รับรู้รายได้เต็มปี และยังเหลืออีก 1 โครงการที่จะ COD จำนวน 50 เมกะวัตต์ ในต้นปี 2563 รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนามขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ที่ SUPER เข้าไปซื้อกิจการเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม 4 โครงการ กำลังผลิตรวม 422 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานช่วง 1-2 ปีข้างหน้า สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

ก็ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายของ SUPER…

แต่อย่าลืมว่า SUPER ยังมีปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตกเรื่องอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ค่อนข้างสูง ปัจจุบันอยู่ที่ 2.38 เท่า

เป็นตัวการสำคัญที่ฉุดรั้งกำไรของ SUPER .!!

ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่สามารถทำให้ D/E ลดลงได้ โอกาสที่จะเห็น SUPER โตแบบก้าวกระโดดก็คงยาก..!! (นักลงทุนที่ติดหุ้น SUPER อาจต้องทำใจร้องเพลงรอไปพลาง ๆ ก่อน)

หรือเฮียจอมทรัพย์จะเถียงว่าไม่ใช่…ก็พร้อมรับฟังนะคะ

…อิ อิ อิ…