สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 มี.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 มี.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1,100 จุดเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในศึก”ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบไพรมารีของพรรคเดโมแครต เพื่อเลือกผู้ที่จะเป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้ โดยนักลงทุนขานรับข่าวดังกล่าวเนื่องจากชื่นชอบนโยบายสายกลางของนายไบเดน ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่างนายเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ ที่มีแนวโน้มใช้นโยบายทางเศรษฐกิจที่สุดโต่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,090.86 จุด พุ่งขึ้น 1,173.45 จุด หรือ +4.53% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,130.12 จุด เพิ่มขึ้น 126.75 จุด หรือ +4.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ ปิดที่ 9,018.09 จุด เพิ่มขึ้น 334.00 จุด หรือ +3.85%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางอื่นๆ อาทิ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.36% ปิดที่ 386.30 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,464.89 จุด เพิ่มขึ้น 71.72 จุด หรือ +1.33%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,127.69 จุด เพิ่มขึ้น 142.30 จุด หรือ +1.19% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,815.59 จุด เพิ่มขึ้น 97.39 จุด หรือ +1.45%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า ธนาคารกลางต่างๆ รวมถึงธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,815.59 จุด เพิ่มขึ้น 97.39 จุด หรือ +1.45%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 รวมทั้งข่าวที่ว่า รัสเซียอาจจะไม่เห็นด้วยกับการปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร วันที่ 5-6 มี.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 46.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 73 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 51.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังทำให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลงด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,643 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.8 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 17.246 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 875.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.50 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,385 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางต่างๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.5% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.34 เยน จากระดับ 107.23 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3402 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3373 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9560 ฟรังก์ จากระดับ 0.9570 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1139 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1175 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2868 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2811 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6614 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6595 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button