BBL ลุยเพิ่มมาตรการ-ขยายเวลาเยียวยาผู้รับผลกระทบ “โควิด-19”

BBL ปรับเพิ่มมาตรการ-ขยายเวลาเยียวยาผู้รับผลกระทบ “โควิด-19”


นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้า และขยายกลุ่มให้ครอบคลุมสินเชื่อธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั้งจากสงครามการค้า (Trade War) ภัยแล้ง และการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และลูกค้าบุคคล ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

อาทิ เพิ่มวงเงินให้ความช่วยเหลือต่อราย ผ่อนผันการชำระหนี้ ปรับลดอัตราผ่อนชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ย ยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัดและค้างชำระ เพิ่มเติมจากมาตรการที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ทั้งการปรับและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ การช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่องกิจการระยะสั้น และการสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ธนาคารมีการพิจารณาปรับและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ และการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกค้าเป็นรายกรณี ในส่วนลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมตามโครงการ ‘สินเชื่อบัวหลวง SMEs บรรเทาทุกข์จากภาวะเศรษฐกิจ’ เพื่อช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการที่ธุรกิจได้รับผลกระทบ เพิ่มวงเงินต่อรายสูงสุดจาก 20 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR -1% ต่อปี หรือพิจารณาผ่อนผันตามความเหมาะสมแต่ละกรณี

ด้านลูกค้าบุคคล ได้แก่ลูกค้าสินเชื่อบัตรเครดิต ธนาคารช่วยเหลือในการปรับเงื่อนไขผ่อนผันให้ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้ตามยอดเรียกเก็บไม่เกิน 3 รอบบัญชี ปรับลดอัตราผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำให้ต่ำกว่า 10% ของยอดคงค้าง และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติ 50% ไม่เกินเดือนธันวาคม 2564 และยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่งเกิดจากปัญหาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

สำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคลอื่นๆ ธนาคารได้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ตามความเหมาะสม ผ่อนผันให้ปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ปรับยอดผ่อนชำระรายเดือนลงสูงสุด 40% สูงสุดไม่เกิน 24 เดือน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ระยะเวลาหนึ่งตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี และยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งเกิดจากปัญหาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

“ธนาคารได้มีการติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมอย่างใกล้ชิด โดยเห็นว่าขณะนี้ลูกค้าไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เท่านั้น จึงได้ขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทั้งที่เกิดจากสงครามการค้า (Trade War) และภัยแล้ง ในวิธีการต่างๆ ทั้งการเพิ่มวงเงิน และระยะเวลา การปรับลดและผ่อนผันเงื่อนไขต่างๆ ให้ลูกค้าแต่ละรายมีความคล่องตัวและคลายความกังวลใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำสำหรับแนวทางที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแต่ละราย” นายสุวรรณ กล่าว

Back to top button