คางคกขึ้น..WAR
*เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ “โมนิก้า” มีความตั้งใจอยากจะเม้าท์เรื่องดี ๆ เพื่อทำให้แฟนคลับรู้สึกกระชุ่มกระชวยในภาวะการลงทุนที่ตึงเครียด แต่เผอิญพรายกระซิบเม้าท์มอยถึงเกม “หักเหลี่ยมโหด” เริ่มเกิดขึ้นประปราย จึงต้องกระโดดเข้ามาร่วมวงศ์ไพฑูรย์กับเขาด้วยคน เพราะเป็นเรื่องที่แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ด..ดด! ซึ่งมันเกี่ยวโยงกับผู้คนต่าง ๆ ในแวดวงตลาดหุ้นพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ “โมนิก้า” มีความตั้งใจอยากจะเม้าท์เรื่องดี ๆ เพื่อทำให้แฟนคลับรู้สึกกระชุ่มกระชวยในภาวะการลงทุนที่ตึงเครียด แต่เผอิญพรายกระซิบเม้าท์มอยถึงเกม “หักเหลี่ยมโหด” เริ่มเกิดขึ้นประปราย จึงต้องกระโดดเข้ามาร่วมวงศ์ไพฑูรย์กับเขาด้วยคน เพราะเป็นเรื่องที่แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ด..ดด! ซึ่งมันเกี่ยวโยงกับผู้คนต่าง ๆ ในแวดวงตลาดหุ้นพะยะค่ะ
*ประเด็นตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” ได้เห็นพวกอีแร้ง..อีกา ในตลาดหุ้นออกมาดิ้นพล่านกันยกใหญ่ พร้อมกับมีความพยายามจะออกมาแก้ข่าวที่เกิดขึ้น เลยเกิดเป็นสงครามข่าวที่ฟัดกันนัวเนียบนหน้าหนังสือพิมพ์ แถมมีการลากไส้อีกฝั่งออกมาประจานแบบไม่มีชิ้นดี จนหน่วยงานกำกับความเรียบร้อยอย่าง ก.ล.ต. นั่งหัวเราะชอบใจเป็นอย่างมากที่เห็นฝูงหมาบ้าน้ำลายเยิ้มกัดกันหนักหน่วงออกสื่อต่าง ๆ ไงล่ะคะ
*วันนี้เลยขอพูดถึงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นแค่พารากราฟเดียว หลังดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,364.57 จุด ลบไป 26.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.22 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะเด้งกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,400 จุดน่าจะไม่ง่ายเหมือนที่คิด เพราะแรงกระตุ้นที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวยังเป็นเพียงแค่นามธรรม “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การโปรยยาหอมเพื่อทำให้รู้สึกสดชื่นชั่วคราวนะจะบอกให้
*ส่วนเรื่องที่สร้างความปวดร้าวใจมากสุด คงหนีไม่พ้นการแตกหักของคนกันเอง ซึ่งบรรดาแมงลือเม้าท์สามวันสามคืนไม่เลิกคงต้องยกให้กับหุ้น DIMET ซึ่งเป็นหุ้นที่สร้างวีรกรรมฉาวโฉ่มาตั้งแต่สมัย เสี่ยก๋อย แอนด์เดอะแก๊งเข้าเทกโอเวอร์ พร้อมกับขันอาสาหาผู้ร่วมอุดมการณ์ในการทำกิจกรรมปั่นสุดซอย จนราคาหุ้นพุ่งกระฉูดแบบโอเวอร์รีแอ็กต์ ร้อนถึงสำนักงาน ก.ล.ต. ต้องกระโดดเข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมของหุ้นวิ่งแรง รวมทั้งในส่วนของธุรกิจมันดีเหมือนกับสื่อสีเทาพยายามปั่นกระแสไงล่ะคะ
*ครั้นโดนทางการเค้นหนักเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ก็ทำให้ขบวนทัพเกิดอาการรวนหนัก และทำให้ราคาหุ้นร่วงหล่นจากยอดดอย 13 บาทลงมาเรื่อย ๆ (จากตอนปั่นแรกอยู่แค่ 1 บาท) จึงมีความจำเป็นต้องแตะมือเพื่อเปลี่ยนตัวละครใหม่เข้ามาสานสตอรี่ในการเอาธุรกิจก่อสร้างเข้ามาสวม พร้อมกันนั้นก็ปรากฏชื่อวัวสันหลังหวะอย่าง “เสี่ยหมู” เข้ามาเป็นหลังม่านไม้ไผ่ และมีการเชิญชวน “เสี่ยขุน” เข้ามาเป็นกำลังเสริมเพื่อช่วยสานต่อฝันเจ้าค่ะ
*เรื่องดังกล่าวทำท่าจะไปได้สวย และทุกอย่างก็ดูสวยงามไปหมด แต่ดันเกิดรายการ “น้องหักพี่” จากเรื่องขายหุ้นเพิ่มทุน RO ไม่หมด แล้วดันเอาไปขาย PP ให้กับขาใหญ่จอมเหนียว “เสี่ยกึ้ง” ในราคาที่ต่ำกว่าเคยตกลงกันไว้ สร้างความไม่พอใจให้กับฝั่ง “เสี่ยขุน” เป็นอย่างมาก จนนำไปสู่ปฏิบัติการร่อนหนังสือแฉความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในบริษัทแห่งนี้ จนทำให้ผู้คนทั่วไปรู้ถึงความฟอนเฟะของตัวละครดังนะจ๊ะ
*แย่ไปกว่านั้นคือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องยืดเยื้อ เพราะแต่ละฝ่ายต่างถือว่าตนเองกุมเสียงได้เยอะกว่า และมีพวกอีแอบช่วยกันถือหางแบบลับ ๆ แต่ดันลืมไปว่าความไม่ลงรอยดังกล่าวกลายเป็นหนทางสู่หายนะ หลังไม่สามารถเคลียร์เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ภายในบริษัทได้ ส่งผลให้การรับรองงบมีปัญหาขึ้นมาในทันที จนถูกตลาดฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP เพราะส่งงบการเงินไม่ทันเดดไลน์น่ะซี
*เรื่องร้อนอีกเคสคงหนีไม่พ้นควันหลงที่เกิดขึ้นกับหุ้น SGP หลังขบวนทัพหุ้นแตกไม่มีชิ้นดี ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากอีน้องสวยประหารตลบหลังคนในวงการหุ้นแบบไม่ทันตั้งตัว และทุกครั้งที่มีคนไปถามจากปาก น้องหญิง คุณน้องมักทำท่าทางอินโนเซนต์ ผสานกับใส่จริตคิกขุอาโนเนะเข้าอีกนิดหน่อย ทุกคนก็จะลืมเรื่องหุ้นโดนทุบแหลกคามือไปโดยปริยาย จึงอยากเล่าให้เพื่อนแมงเม่าได้เข้าใจเกมหุ้นของตัวนี้สักหน่อยพะยะค่ะ
*อีกหนึ่งหุ้นแสบที่น้องหญิงแอ๊บแบ๊วขาโหด คงต้องซูมเลนส์ไปที่หุ้น MORE เพื่อชี้ให้เห็นผลงานชิ้นเอกที่เคยร่วมรังสรรค์กับ เฮีย ม. ซึ่งตอนนี้มีข่าวแว่วจากบรรดาพรายกระซิบทั้งน้อยทั้งใหญ่ว่า แก๊งนี้กำลังรวมพลพรรคขาปั่นน่องเหล็กอีกครั้ง และทันทีที่ “โมนิก้า” เหลือบไปดูก็เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 0.44 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 18.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45 ล้านบาท ท่ามกลางตลาดหุ้นแดงเถือกแบบนี้..เดี๊ยนเม้าท์ได้แค่ว่า ยายตัวร้ายแสบจริง ๆ..อิอิอิ