1,200 เอาอยู่ ?
*ความตั้งใจแรกตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าวานนี้คือ เม้าท์ถึงควันหลงที่เกิดจาก “เจ๊รื่น” หัวเรือใหญ่ ก.ล.ต. ออกมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้กับกรรมการอิสระเพื่อทำหน้าที่โหวตแทนรายย่อย หลังประเทศไทยโดนไวรัสมรณะเล่นงานทีละหย่อมสองหย่อม จนตอนนี้ลุกลามจนยากเกินกว่าจะควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด หลังจากผีน้อยหลบหนีจากการกักกันโรค ผสมโรงกับพวกคนใหญ่คนโตขาดจิตสำนึกในการกักตัวเองเพื่อดูอาการ 14 วันไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ความตั้งใจแรกตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าวานนี้คือ เม้าท์ถึงควันหลงที่เกิดจาก “เจ๊รื่น” หัวเรือใหญ่ ก.ล.ต. ออกมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้กับกรรมการอิสระเพื่อทำหน้าที่โหวตแทนรายย่อย หลังประเทศไทยโดนไวรัสมรณะเล่นงานทีละหย่อมสองหย่อม จนตอนนี้ลุกลามจนยากเกินกว่าจะควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด หลังจากผีน้อยหลบหนีจากการกักกันโรค ผสมโรงกับพวกคนใหญ่คนโตขาดจิตสำนึกในการกักตัวเองเพื่อดูอาการ 14 วันไงล่ะคะ
*เรื่องดังกล่าวแปรเปลี่ยนทันทีเมื่อมีข่าวรั่วออกมาตอนเช้า ๆ เกี่ยวกับ “เซเว่น” เข้าไปเทกโอเวอร์กิจการของ “โลตัส” ทั้งที่มันเห็นกันทนโท่ว่า ไม่เป็นธรรม..ทำไม่ได้ จึงอยากจะเอาข้อกฎหมายแต่ละอย่างออกมาแฉ เพื่อให้เห็นภาพแบบจะแจ้งกันไปเลย รวมทั้งอยากจะลากคอพวกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. (ก้างขวางคอ) ออกมาฟันธงให้ทุกคนได้รู้กันไปเลยว่า “ผิด” หรือ “ไม่ผิด” (นิตินัยเลี่ยงได้ พฤตินัยเลี่ยงไม่ได้)..อิอิอิ
*สุดท้ายจำเป็นต้องยกยอดเรื่องดังกล่าวไปเม้าท์แบบหมดเปลือกในวันถัดไป เพราะวานนี้ดัชนีดันส่อแววดิ่งนรกแบบไม่ทันตั้งตัวก่อนเปิดตลาดฯ ราว ๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งจังหวะนั้นเป็นช่วงที่มีข่าวแว่วมาแต่ไกลว่าผู้จัดการกองทุนส่งคำสั่งแบบขายทุกราคา ขณะเดียวกันก็มีเสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับยอดขายของฝรั่งตาน้ำข้าว น่าจะมียอดใกล้เคียงกับพวกกองทุนตัวแสบที่ช่วงหลังเล่นบทโหดไม่เลิกสักทีพะยะค่ะ
*โดยผลลัพธ์ที่ออกมาตอนปิดตลาดฯ กลายเป็นว่าดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,255.94 จุด ลบไป 108.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงถึง 1.04 แสนล้านบาท โดยกองทุนตัวแสบถล่มขายออกมาสูงถึง 1.27 หมื่นล้านบาท ขณะที่ฝรั่งขี้นกก็สาดทิ้งในระดับ 4 พันล้านบาท เท่ากับเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก เพราะการร่วงหล่นของดัชนีเที่ยวนี้มีเรื่องของราคาน้ำมันร่วงหนักเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยน่ะซี
*วันนี้ถึงไม่ต้องถามหามุมของการเคาะขวาเป็นการชั่วคราว เพราะสิ่งที่นักเล่นควรจะรู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ คงเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าวันต่อวัน และเที่ยวนี้มีการพุ่งเป้าไปที่เรื่องดัชนีควรอยู่ระดับไหน ? โดยบางกระแสก็เม้าท์กันสนุกสนานว่า 1,250 จุดทยอยเก็บของได้แล้ว! ขณะที่บางส่วนมองในระดับ 1,200 จุดก็มีไม่ใช่น้อย! ส่วนที่ดราม่าหนักสุดเที่ยวนี้น่าจะเป็นการมองดัชนีในระดับต่ำกว่า 1,150 จุดนะจะบอกให้
*ประเด็นทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้จริง! “โมนิก้า” ถึงไม่อยากมองอะไรที่ไกลเกินไป เพราะเมื่อมองดูจากกำไรต่อหุ้นทั้งตลาดหุ้นอยู่ในระดับ 80 บาท จุดที่เหมาะสมของดัชนีควรอยู่บริเวณ 1,200 จุดนี่แหละ (เทียบพี/อี 15 เท่า) และเมื่อดูจากผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงแรง เลยไม่มีใครรู้ว่ากรณีแย่สุดของตลาดหุ้นไทยจะไปจบลงตรงบริเวณต่ำกว่า 1,000 จุดไหมตัวเอง!
*ขนาดหุ้นตัวเด่น ๆ อย่างพี่เทพ PTTEP ยังโดนถล่มติดฟลอร์แบบไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับมีเสียงเปรยเป็นนัยว่า อาจเห็นราคาต่ำกว่านี้ ? จึงกลายเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” ต้องคาบข่าวมาเม้าท์กันอย่างเร่งด่วน เพราะมองจากราคาปิดในระดับ 74.75 บาท ลบไป 31.75 บาท หรือลงไป 29.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนเข้าใจได้ว่านี่เป็นราคาต่ำสุดแล้วจริง ๆ ก็เท่านั้นเอง
*ต่อมาคงเป็นในรายของ PTTGC เจอผลกระทบในหลากหลายรูปแบบ จนไม่สามารถตั้งลำได้เสียทีแบบนี้ “โมนิก้า” เหนื่อยใจที่จะเม้าท์ถึงบ่อย ๆ เพราะตลาดหุ้นให้แวลูต่ำไปจากความเป็นจริงเยอะ จึงมองไม่เห็นปัจจัยที่จะทำให้หุ้นกลับมารุ่งเรืองได้ในเร็ววัน จึงอยากให้นักเล่นช่วยกันประเมินการยืนปิดที่ระดับ 31 บาท ลบไป 11.25 บาท หรือลงไป 26.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.69 พันล้านบาท เทียบกับบุ๊กที่ระดับ 61 บาท มันจะอธิบายอย่างไรดีเจ้าคะ
*ในเมื่อไม่มีอะไรช่วยอธิบายได้แบบโป๊ะเชะ จึงเกิดรายการโป๊ะแตกที่หุ้นแม่ PTT แบบช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะอารมณ์ของผู้เล่นเที่ยวนี้เกิดจากอาการตระหนกเป็นประเด็นหลัก “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 28 บาท ลบไป 9.50 บาท หรือลงไป 25.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.86 หมื่นล้านบาท คือราคาที่น่าทยอยเก็บมากเหลือเกิน แต่เมื่อเหลือบดูจากเกมทุบน้ำมันของประเทศมหาอำนาจที่ยังไม่จบง่าย ๆ จึงขอตัดใจจากหุ้นเป็นการชั่วคราวนะตัวเอง