เหมือนจะจบสวย ?
*บางครั้งโลกของการลงทุนก็เป็นอะไรที่เข้าใจยากเหมือนกัน เพราะมีหลายตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม “โมนิก้า” ถึงพยายามมองเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของการเล่นหุ้นในแต่ละรอบมาจากพื้นฐานขนาดไหน ? รวมทั้งยังต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม จึงทำให้ในแต่ละวันเดี๊ยนมีเรื่องมากมายต้องคิดต้องอ่านตลอดเวลานะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*บางครั้งโลกของการลงทุนก็เป็นอะไรที่เข้าใจยากเหมือนกัน เพราะมีหลายตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม “โมนิก้า” ถึงพยายามมองเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของการเล่นหุ้นในแต่ละรอบมาจากพื้นฐานขนาดไหน ? รวมทั้งยังต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม จึงทำให้ในแต่ละวันเดี๊ยนมีเรื่องมากมายต้องคิดต้องอ่านตลอดเวลานะจะบอกให้
*ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการเด้งขึ้นของดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,271.25 จุด บวกไป 15.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.46 หมื่นล้านบาท มันเป็นการดีดตัวขึ้นในทางเทคนิค หรือเป็นผลมาจากตลาดหุ้นลงมาถึงจุดต่ำสุดกันแน่ จึงกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนต้องเร่งหาคำตอบให้ได้เร็วสุด เพราะไม่อยากให้แฟนคลับหลงเข้าไปเล่นเกมของพวกกองทุนขาโหดที่มีนิสัยทุบหุ้นไม่เลี้ยงพะยะค่ะ
*ถามว่าเดี๊ยนมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นดัชนีพุ่งขึ้นพรวดพราด เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่ามีอาการพะอืดพะอมอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ! เพราะของมันเห็นกันมาหลายรอบแล้วว่า ตลาดหุ้นไทยยังพยายามฝืนธรรมชาติต่อไปเรื่อย ๆ และผลสุดท้ายก็เจ็บหนักอีกตามเคย “โมนิก้า” ถึงมองสวนกระแสด้านบวกเป็นประจำ หลังสัมผัสด้วยตนเองแล้วพบว่า เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจไม่สะพัดเหมือนก่อนหน้านี้ไงล่ะคะ
*เมื่อทุกอย่างยังไม่นิ่งเหมือนที่สังคมคาดหวัง PTTGC จึงกลายเป็นหุ้นที่ถูกนักเล่นสถาบันขายทิ้งต่ออีกวัน ทั้งที่ในระหว่างวันพยายามดันสู้กับแรงขายที่ออกมาเป็นระยะ จนสุดท้ายหุ้นยืนปิดที่ระดับ 30.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.35 พันล้านบาท เท่ากับเป็นการตอกย้ำความกลัวยังมีอยู่เต็มก้นบึ้งของหัวใจแบบนี้ แมงเม่าอยู่ห่าง ๆ ไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP ยังโดนเทขายไม่เลิกสักที และมีโอกาสจะโดนตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” เลยมีอาการใจคอไม่ค่อยดีอย่างแรง เพราะสงครามการห้ำหั่นราคาน้ำมันระหว่างประเทศมหาอำนาจยังไม่ยุติ ส่งผลให้เอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ ยังมีผลกับราคาหุ้นในกระดานเต็ม ๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 70.50 บาท ลบไป 4.25 บาท หรือลงไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.87 พันล้านบาทเจ้าค่ะ
*ในเมื่อการใช้ชีวิตของผู้คนเต็มไปด้วยปัญหาสารพัด BEM ย่อมได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วยเหมือนกัน เพราะไวรัสมรณะทำให้ผู้คนเลือกเดินทางเฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ช่วงนี้ผู้คนมากมายมีมุมมองไม่ค่อยสู้ดีกับหุ้นตัวนี้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นทำได้ดีสุดแค่ยืนปิด 9.10 บาท ลบไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 486 ล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจจริง ๆ นะคะ
*คล้ายกับกรณีของ BAM เด้งขึ้นมาปิดที่ 24.80 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 4.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.99 พันล้านบาท ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่ากำไรปีนี้ไม่ปัง! แต่ยังมีเจ้ามือเข้ามาดันหุ้นหน้าตาเฉยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมสั้น ๆ ที่นักเล่นต้องไหวตัวให้ทัน และอย่าไหลตามน้ำจนโดนล่อหัวกบาลแตก “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าสำหรับการเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลยพะยะค่ะ
*เหมือนกับในรายของยักษ์ใหญ่ CRC กระชากขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 36.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 965 ล้านบาท ทั้งที่โบรกฯ ส่วนใหญ่ยังไม่กล้าแนะให้ลุยสุดซอย “โมนิก้า” มองเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องติดตามสถานการณ์ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะวันนี้รับรู้ในวงกว้างว่าไตรมาส 1 ปี 2563 งบไม่สวย จึงรู้สึกเป็นห่วงที่หุ้นขึ้นภาวะผันผวนนะจะบอกให้
*ร้อนแรงอย่างไม่น่าเชื่อต้องยกให้หุ้น MONO หลังแหวกกระแสหุ้นเล็กขึ้นมาปิดที่ 1.46 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 15.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 92 ล้านบาท น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเล่นต้องใช้ความไวมากเป็นพิเศษ เพราะเมื่อดูจากตัวเลขต่าง ๆ ที่ปรากฏบนงบการเงิน “โมนิก้า” มองไม่เห็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หุ้นตัวนี้ขึ้นยาวจริง ๆ จึงฝากให้นักเล่นกลับไปคิดเป็นการบ้านแล้วกัน..อิอิอิ