SET บ่ายไร้ปัจจัยหนุน ซบเซาต่อเนื่องจับตาประชุมครม. แนะช้อน 11 หุ้นเด่น

SET ไร้ปัจจัยใหม่ขับเคลื่อนปิดเช้าปรับลง ราคาน้ำมันกดดันหุ้นพลังงาน ตลาดภูมิภาคแกว่งตัวในทางลบ เหตุยังกังวลเศรษฐกิจจีน รอติดตามทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ วันนี้ต้องติดการประชุมครม.เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดบ่ายตลาดยังซบเซาในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,430-1,420 แนวต้าน 1,440 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (4 ส.ค.) เคลื่อนไหวในแดนลบ วอลุ่มเทรดเบาบาง ไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนในช่วงนี้ รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลงส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดเกาะติดการประชุมครม.พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่แดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจของจีน และรอติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีคงยังซบเซาอยู่ในแดนลบ โดยแนวรับ 1,430-1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440 จุด ขณะที่ แนะนำหุ้น ADVANCINTUCH-TRUEIF-CK-STEC-SEAFCO-SCC-KBANK-EA-AAV และ TIPCO

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซบเซาและวอลุ่มเทรดเบาบาง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาในช่วงนี้ อีกทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลงต่อเนื่อง

ขณะที่ ในวันนี้ต้องเกาะติดการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีเรื่องการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้านทีเสนอโดย รมว.คลัง จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดได้หรือไม่ เนื่องจากเวลานี้เศรษฐกิจไทยยังดูไม่ดี

ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวกและลบ แต่อิงไปในทางลบมากกว่า เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจของจีน และรอติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่คาดว่าอีก 1-2 เดือนข้างหน้าคงจะต้องเพิ่มน้ำหนักในประเด็นนี้กันอีกครั้ง

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีคงยังซบเซาอยู่ในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,430-1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ส.ค. ) ว่า การปรับลดลงต่อเนื่องของราคาน้ำมัน เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT-PTTEP-PTTGC (มี Unplanned + Planned Shutdown Aromatic Plan ประมาณ 45 + 30 = 75 วัน กระทบกำไรครึ่งปีหลังของปี 58 ประมาณ 0.8-1.0 พันล้านบาท) และ SET ปรับลดลงมาที่แนวรับระยะสั้น 1,430 บาท อย่างไรก็ตามคงมุมมอง Technical Rebound ด้วยเป้าหมาย 1,546 หรือ 1,590 จุด ต่อไป โดยแนะนำ “Selective” ดังนี้

1.กลุ่มหุ้นปันผลสูง: “ซื้อ” ADVANC (กำไรดีตามคาด ปันผล 6.5 บาท/หุ้น หรือ Div Yield 2.6%) INTUCH (คาดปันผลกลางปี 2.42 บาท/หุ้น หรือ Div Yield 3%) และ TRUEIF (“ซื้อ” แนวรับ 12.4 บาท หลังขึ้น XD วันนี้ 0.2365 บาท)

2.กลุ่มหุ้นรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง CK-STEC-SEAFCO และ SCC

3.กลุ่มหุ้น Valuation ถูก: KBANK (PBV ปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 13%, PE’15 10x) BLA (กำไร Turnaround ด้วยการเติบโต 44-56% ในปี 2015-16 ขณะที่ PE ลดลงเร็วเหลือ 11.9x ปีหน้า) EA (กำไรเติบโต 89-95% ในปี 2015-16 ส่งผล PE ลดลงเหลือ 13.6x ปีหน้า)

และ 4.กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลง: “เก็งกำไร” AAV และ TIPCO (ได้ประโยชน์ผ่าน TASCO ราคาต่ำกว่า NAV อยู่ 29% – ดูกราฟด้านล่าง)

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ส.ค. ) SET ช่วงเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ และรับแรงจากกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบที่อุปทานน้ำมันเริ่มจะล้นตลาด โดยวันนี้ต้องติดตามการประชุม ครม.กับ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศโดยกระทรวงการคลัง เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่า 3% ในปีนี้ ช่วยหนุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีโอกาสในการเก็งกำไร

ส่วนตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจจีนได้ส่งสัญญาณชะลอตัว ติดตามสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อดูแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

แนวโน้มบ่ายนี้ หากดัชนีสามารถยืนตัวบนเส้นแนวรับที่ 1,432 จุดได้ มีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นทดสอบเป้าหมายที่ 1,445 จุด หากยืนไม่ได้ มีโอกาสลงไปปิดแก๊ปที่ 1,420 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

WICE มูลค่าการซื้อขาย 1,710.64 ล้านบาท ปิดที่ 3.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.64 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,498.24 ล้านบาท ปิดที่ 245.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

PK มูลค่าการซื้อขาย 1,021.39 ล้านบาท ปิดที่ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,014.27 ล้านบาท ปิดที่ 321.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 730.92 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button