JMT พื้นฐานดี

คุณค่าบริษัท

เข้าสู่สามประเด็นสำคัญของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ที่จะยังคงผลักดันให้ JMT เติบโตไปตามคาดในช่วงปี 2563

ว่าด้วยทางผู้บริหารมั่นใจต่อผลประกอบการในปี 2563 ในแง่ของประเด็น

1)  การลงทุนซื้อหนี้ใหม่ โดยบรรยากาศยังใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่การปรับใช้ TFRS 9 จะทำให้การขายหนี้ NPL จากสถาบันการเงินเร็วขึ้นเป็น Upside risk

2) การเก็บหนี้ ซึ่งเบื้องต้น 2 เดือนแรกของไตรมาส 1/2563 การเก็บเงินสด (Cash collection) ยังเป็นปกติ ใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นปัจจุบัน JMT ยังบริหารจัดการได้ หากสถานการณ์ไม่บานปลาย

3) ผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่ไม่ส่งผลต่อกำไรในบรรทัดสุดท้าย (สุทธิเท่าเดิม) แม้จะเปลี่ยนวิธีบันทึกของรายได้และต้นทุนจากเกณฑ์เงินสด (Cash) เป็นคงค้าง (Accrual basis) แม้อัตราส่วนการเงินโดยรวมอาจเปลี่ยนแปลงบ้างสำหรับหนี้ที่มีหลักค้ำประกัน (Secured loan)

นอกจากนี้ได้มีการตั้งเป้าหมายในปี 2563 ยังเดินหน้าต่อ ทั้ง 1) ยอดเก็บเงินสด 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2) การลงทุนซื้อหนี้ใหม่ไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ 3.3-4 พันล้านบาท ตามแนวโน้ม NPL ในระบบเร่งตัวสูงขึ้นเป็นบวกต่อ JMT 3) ธุรกิจประกัน (50%) จะไม่ฉุดขาดทุนเช่นปีก่อน (-30 ล้านบาท) หลังลดต้นทุนด้วยการปรับพอร์ตลด Loss ratio และเพิ่มสินค้ากลุ่ม Non-motor ที่อัตรากำไรดีกว่าเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 JMT มีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,524.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,884.89 ล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า, รายได้ดอกเบี้ย และเงินปันผล, กำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ และรายได้จากการรับประกันภัย ส่งผลให้ JMT มีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 681.36 ล้านบาท หรือ 0.77 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 505.52 ล้านบาท หรือ 0.60 บาทต่อหุ้น

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง  มองว่าจากราคาปรับตัวลงตามภาวะตลาดและผลกระทบระยะสั้น ทว่า JMT เป็นหุ้นที่มีกระแสเงินสดและกำไรสุทธิที่ทนทานต่อเศรษฐกิจผันผวนได้ ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.60 บาท/หุ้น

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) 495,593,474 หุ้น 55.81%
2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 38,042,129 หุ้น 4.28%
3. นายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา 29,205,000 หุ้น 3.29%
4. นายสมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์ 14,311,700 หุ้น 1.61%
5. น.ส.พิชญ์สินี เสรีวิวัฒนา 12,226,900 หุ้น 1.38%

รายชื่อกรรมการ

1. นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานกรรมการ
2. นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
3. นายปิยะ พงษ์อัชฌา กรรมการ
4. น.ส.ยุวดี พงษ์อัชฌา กรรมการ
5. นายเริงชัย อิงคภากร กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ