SEAFCO เสาเข็มแกร่ง

คุณค่าบริษัท

บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO แจ้งว่าช่วงเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมาได้งานเสาเข็มเพิ่มอีก 2 โครงการจำนวน 323 ล้านบาท โดยมีโครงการโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (ส่วนขยาย) และโครงการทางด่วนพระราม 3–ดาวคะนอง

พร้อมกับคาดว่าจะแจ้งได้งานเพิ่มอีกสำหรับเดือนมีนาคม 2563….

ขณะที่งานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 2562 ราว 2.1 พันล้านบาท สูงขึ้นเทียบกับไตรมาส 3/2562 ที่ 1.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1/2563 SEAFCO อยู่ในช่วงการก่อสร้างโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และบางกอก มอลล์ เพื่อรับรู้เป็นรายได้ก่อสร้างต่อไป

ผลดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์ปรับประมาณการปีนี้เพิ่ม 16% จากคาดการณ์รายได้ที่สูงขึ้น 4% เป็น 3,123 ล้านบาท และคิดเป็นการเพิ่ม 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เทียบกับเป้าหมายที่ SEAFCO ตั้งไว้ปีนี้คือ เพิ่มขึ้นราว 8-15% และประหยัดค่าใช้จ่ายขาย-บริหารได้ดี ปีนี้และปี 2564 ลดลงเป็น 5.2% จากเดิมที่ 6.3% กำไรสุทธิหลังปรับประมาณการมีอัตราการเพิ่มขึ้น 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และปี 2564 เพิ่มต่อเนื่องได้อีก 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลง สถานการณ์ราคาน้ำมันระยะนี้ปรับตัวลงแรง WTI ล่าสุดเป็น 34.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เทียบกับต้นปี 2563 ที่ 61.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลง 44% แต่หากพิจารณาในแง่ค่าเฉลี่ยที่ปรับลดลง 7-10% และจากโครงสร้างต้นทุนพลังงานที่เป็นสัดส่วนประมาณ 10% จากต้นทุนรวม ก็จะทำให้กำไรสุทธิปี 2563 เพิ่มขึ้นในอัตรา 4-6% แต่ยังต้องติดตามว่าราคาน้ำมันจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่องหรือไม่

นอกจากนี้ SEAFCO จะมีงานขนาดใหญ่ทยอยออกมา หลังพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 เริ่ม แม้งบประมาณปี 2563 มีความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันก็ผ่านออกมาแล้ว เพราะถึงอย่างไร SEAFCO มีสายสัมพันธ์ที่ดีในการเป็นผู้รับเหมาช่วงให้กับ CK จึงคาดว่าจะได้งานเพิ่ม เช่น ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน และจะมีงานรถไฟฟ้าซึ่งให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงทยอยออกมาอีก เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) และงานรถไฟฟ้าสายสีแดง ขณะที่ SEAFCO คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลงานจากทั้งหมดที่ 1.99 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่างานเสาเข็มประมาณ 3-5% หรือราว 1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ส่งผลให้นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม ถือ เพราะราคาหุ้นถือว่าถูก P/E ปี 2563 เพียง 9.7 เท่า เทียบกับเฉลี่ย 5 ปีที่ 15.6 เท่า และ 2 ปีที่ 16.1 เท่า ถือว่าราคาหุ้นปรับลงมากไปตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปรับลงมาแล้ว 12.8% สำหรับราคาพื้นฐานใหม่ปรับเพิ่มเป็น 7.03 บาท

ขณะที่มีโอกาสได้งานขนาดใหญ่อีกมาก SEAFCO จ่ายปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้คาดไว้ที่ 4.8% และฐานะการเงินดีใช้หนี้เงินกู้น้อย คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน ณ สิ้นปี 2563 เป็นเพียง 0.3 เท่า

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ 56,857,936 หุ้น 7.69%
2. นางณัฐฐกานต์ ทัศนนิพันธ์ ทันโนะ 53,672,824 หุ้น 7.26%
3. นางภาวนา ทัศนนิพันธ์ 23,857,163 หุ้น 3.23%
4. นายทัศน์พันธ์ ทัศนนิพันธ์ 23,398,371 หุ้น 3.16%
5. นายณัฐฐพล ทัศนนิพันธ์ 17,182,896 หุ้น 2.32%

รายชื่อกรรมการ

1. นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ
2. นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
3. นายเผด็จ รุจิขจรเดช กรรมการ
4. นายกมล สิงโตแก้ว กรรมการ
5. น.ส.ณัฐฐวรรณ ทัศนนิพันธ์ กรรมการ