น้ำมันดิบปิดบวกจากแรงซื้อเก็งกำไร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาร่วงลงติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันในวันนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดวานนี้ (4 ส.ค.) ที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 49.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคำสั่งยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้ ก็จะยิ่งทำให้อิหร่านสามารถผลิตและส่งออกน้ำมันดิบได้มากขึ้น
ตลาดได้รับแรงหุนนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่ง EIA จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ จะปรับตัวลดลงอีก หลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ปรับลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 459.7 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ในระดับทรงตัว และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 212,000 บาร์เรล สู่ระดับ 57.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนมิ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภาคการขนส่ง และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดสั่งซื้อภาคโรงงานได้ฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะ 68.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 63.1 ในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนีการจ้างงานดีดตัวแตะระดับ 64.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน