ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน ตามดาวโจนส์ดิ่ง 3,000 จุด หลัง“ทรัมป์”สั่งงดกิจกรรมสังคมสกัด “โควิด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3,000 จุด เมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้งด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินและอัดฉีดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก็ตาม

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,726.95 จุด ลดลง 275.09 จุด, -1.62%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,796.28 จุด เพิ่มขึ้น 7.03 จุด, +0.25%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,001.76 จุด ลดลง 61.81 จุด, -0.27%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,538.64 จุด ลดลง 179.13 จุด, -1.84%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,640.84 จุด ลดลง 74.02 จุด, -4.32%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,469.73 จุด ลดลง 26.04 จุด, -1.04%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,217.28 จุด ลดลง 63.35 จุด, -4.95%

ด้านตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ประกาศปิดการซื้อขายตั้งแต่วันนี้ จนกว่าจะมีการประกาศให้ทราบความคืบหน้า เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ที่ประกาศขยายมาตรการกักกันชุมชนไปจนถึงเกาะลูซอน นอกเหนือจากกรุงมะนิลา โดยการล็อคดาวน์ครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงกดดันหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างตื่นตระหนก จนทำให้ตลาดต้องใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาทีเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการใช้ครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่า การที่เฟดออกมาตรการครั้งใหญ่ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 1.00% และอัดฉีดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์นั้น ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19

ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาเรียกร้องให้ชาวอเมริกันระงับการจัดกิจกรรมทางสังคมเป็นเวลา 15 วัน และหลีกเลี่ยงรวมตัวกันมากกว่า 10 คน ซึ่งถือเป็นความพยายามเชิงรุกในการลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย