ASEFA ลุ้นเปิดเหนือ IPO ราคาที่ 7.00 บ.
ASEFA ราคาก่อนเปิดตลาด (Pre Open) 5 นาที อยู่ที่ 7.00 บ. โดยจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายก่อนตลาดประมาณ 41 ล้านหุ้น ด้านฝั่งซื้อ (Bid) ประมาณ 38 ล้านหุ้น ส่วนฝั่งขาย (Offer) ประมาณ 20 ล้านหุ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถเปิดเหนือ IPO ได้ตามคาดการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ราคาก่อนเปิดตลาด (Pre Open) 5 นาที อยู่ที่ 7.00 บ. โดยจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายก่อนตลาดประมาณ 41 ล้านหุ้น ด้านฝั่งซื้อ (Bid) ประมาณ 38 ล้านหุ้น ส่วนฝั่งขาย (Offer) ประมาณ 20 ล้านหุ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถเปิดเหนือ IPO ได้ตามคาดการณ์
แหล่งข่าวจากตลาดทุน เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของ ASEFA ที่จะเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันนี้ ประเมินว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 6.50 บาท ยืนเหนือราคาไอพีโอซึ่งอยู่ที่ 3.70 บาท โดยราคาดังกล่าวคิดจากกำไรสุทธิของ ASEFA ในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 180 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวนั้นจะอิงกับกำไรที่จะเกิดขึ้นและเทียบกับค่าพี/อีของกลุ่มที่ 20 เท่า ส่วนภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ที่ไม่ค่อยดีนั้น น่าจะไม่กระทบกับการซื้อขายหุ้นของ ASEFA เพราะมีพื้นฐานที่ดีเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจตู้จำหน่ายไฟฟ้า และการที่ในไทยจะมีการเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าก็น่าจะเป็นผลดีกับธุรกิจ เพราะตู้ไฟฟ้าถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของโรงไฟฟ้า และมองว่าตั้งแต่ปี 2559-2560 ทาง ASEFA จะมีผลการดำเนินงานเติบโตไม่น้อยกว่า 15%
ขณะที่ นายพิชัย ปั้นจันทร์ เลขานุการ ASEFA เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/58 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29.52 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.92 ล้านบาท เพราะยอดขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงนโยบายการขาย โดยลดการขายสินค้าที่มีกำไรต่ำ
โดยรายได้ของบริษัทในไตรมาส 1/58 อยู่ที่ 520.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 441.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.88% ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ รายได้จากการบริการ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 23.99 ล้านบาทในไตรมาส 1/57 เป็น 74.22 ล้านบาทในไตรมาส 1/58 หรือคิดเป็นการเติบโต 209.3% อีกทั้งบริษัทยังมีรายได้จากการรื้อถอนโครงการโรงไฟฟ้าบางปะกงจำนวน 42.34 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 113.83 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 182.19 ล้านบาท