“สมุทรปราการ” เข้ม ปิด 28 จุดเสี่ยง “โควิด-19” ดีเดย์ 22 มี.ค.ฝ่าฝืนเจอคุก 1 ปี!
"ผู้ว่าฯสมุทรปราการ" สั่งเข้ม ปิด 28 จุดเสี่ยง "โควิด-19" ดีเดย์ 22 มี.ค. ฝ่าฝืนเจอคุก 1 ปี!
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ลงนามในประกาศจังหวัดสมุทรปราการ เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 3) ณ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2563
โดยระบุว่า ด้วยสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COvid-19) อันเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสําคัญของ โรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. ๒๕๖๓ พบการเพิ่มขึ้นของจํานวนผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดปริมณฑลที่มีภูมิศาสตร์สําคัญทางเศรษฐกิจ การคมนาคม การท่องเที่ยว และมีความหนาแน่นของประชากรสูง ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว การควบคุมโรคอย่างทันเวลา และจํากัดการชุมนุมของประชาชนเพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้างจึงมีความจําเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรปราการ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 จึงให้ยกเลิกประกาศจังหวัดสมุทรปราการ เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563
และให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 ดังต่อไปนี้
1.ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม (ให้เปิดเฉพาะการจําหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อนํากลับไป บริโภคที่อื่น และร้านอาหารในโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรม)
2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคาร หรือบริเวณเดียวกัน เว้นแต่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิต ร้านอาหาร (ให้เปิดเฉพาะการจําหน่ายอาหารเพื่อนํากลับไปบริโภคที่อื่น)
3.พื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารในร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ซูเปอร์มาร์เก็ต
4.ตลาดและตลาดนัด (เปิดเฉพาะการจําหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสําเร็จ เพื่อนํากลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิต)
5.ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม
6.สถานที่บริการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย
7.สถานที่เล่นสเกต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการเล่นอื่นๆ ในทํานองเดียวกัน
8.สวนสนุก สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม
9.ร้านเกมส์ และร้านอินเตอร์เน็ต
10.สนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ
11.สระว่ายน้ำ สวนน้ำ หรือกิจการอื่น ๆ ในทํานองเดียวกัน
12.สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
13.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา
14.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการ
15.สถานศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท สถาบันกวดวิชา และสถานรับเลี้ยงเด็ก
16.สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกความสวยงาม และสถานเสริมความงาม
17.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม นวดแผนไทย นวดแผนโบราณ)
18.สถานที่ให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยง หรือรับฝากสัตว์
19.สถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด
20.สถานประกอบกิจการอาบน้ํา อบไอน้ํา อบสมุนไพร
21.โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ)
22.สถานที่ออกกําลังกาย รวมถึงฟิตเนส
23.สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ
24.สนามมวย ค่ายมวย และโรงเรียนสอนมวย
25.สนามกีฬา และสนามฝึกซ้อมกีฬา
26.ร้านคาราโอเกะ ทุกประเภท
27.โต๊ะบิลเลียด สนุกเกอร์ทุกประเภท
28.บ่อตกปลา บ่อตกกุ้ง หรือกิจกรรมใดในประเภทเดียวกัน
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจําเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหาย อย่างร้ายแรงแก่สาธารณะหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2558
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป