UAC มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า คาด 2H58 สรุปแผนซื้อธุรกิจพลังงาน 1 แห่ง

นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าช่วงครึ่งหลังปี 58 จะมีความชัดเจนเรื่องของแผนการซื้อกิจการตามนโยบายของบริษัทอย่างน้อยอีก 1 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจด้านพลังงาน โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจลงทุนอยู่ที่ระดับ 50:50

ขณะที่มั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ในปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,500 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจพลังงานที่ทยอยเปิดดำเนินการเพิ่มขึ้น บวกกับการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคอล จำกัด (APC) ทำให้บริษัทรับรู้รายได้ประมาณ 300 ล้านบาทในปีนี้ 

โดยภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น เนื่องจากโครงการต่างๆของบริษัทที่มีการลงทุนในช่วงที่ผ่านได้ทยอยดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น สำหรับโครงการที่แล้วเสร็จ และทยอยดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีหลัง 58 ได้แก่ โรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โดยใช้หญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นพืชพลังงานตั้งอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกะวัตต์

และโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาของบริษัท ยูเอซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยเช่าพื้นที่บนหลังคาจากบมจ.สหไทยสตีลไพพ์   ตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีกำลังการผลิต 924.56 kW และโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาของบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด ตั้งอยู่ที่ จ. สุราษฎร์ธานี มีกำลังการผลิต 750.20 kW เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อสิ้นเดือนมิ.ย.58

ขณะที่โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอ กงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย สามารถทำการผลิตต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 57 โดยนำก๊าซธรรมชาติที่เผาทิ้งในการผลิตน้ำมันดิบ (Associated Gas) นำมาแปรสภาพได้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ประกอบด้วย ก๊าซธรรมชาติอัด (CNG)  ก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือก๊าซหุงต้ม (LPG) และก๊าซโซลีนธรรมชาติ (NGL)  และปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการท่อส่งก๊าซเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้  จะทำให้โรงงาน PPP เดินเครื่องได้ 100% ของกำลังการผลิต

นอกจากนี้บริษัท กำลังเร่งรัดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพจากพืชพลังงาน กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปีนี้

ธุรกิจของบริษัทในครึ่งหลังปีนี้จะกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง จากการเริ่มทยอยเดินเครื่องของโครงการต่างๆที่บริษัทได้ลงทุนไปในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ทั้งในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจเคมีภัณฑ์ต่างก็เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้ จึงมั่นใจว่าเป้ารายได้ที่วางไว้ 1,500 ล้านบาทสามารถทำได้แน่นอน

บริษัทมีกลยุทธ์การขยายด้านการตลาดในธุรกิจเคมีภัณฑ์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ หลังจากการเข้าไปซื้อกิจการ APC แล้ว โดยการมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้า และเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม พม่า กัมพูชาและลาว และมีการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ ทั้งยุโรปและญี่ปุ่น เพื่อดึงเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเข้ามาเพิ่มเติม โดยจะเริ่มการลงทุนขยายกำลังการผลิตไลน์ที่ 3 เพื่อรองรับสิทธิประโยชน์การลงทุนจากบีโอไอที่มีอยู่