วิตกอุปทานล้นตลาดฉุดน้ำมันดิบปิดปรับลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงขึ้น
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 59 เซนต์ ปิดวานนี้ (5 ส.ค.) ที่ 45.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจาก EIA ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค. เพิ่มขึ้น 52,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.465 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์เปิดเผยในรายงานประจำสัปดาห์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5 แห่ง เป็น 664 แท่น ซึ่งปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงขึ้นนั้น ได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.ร่วงลง 4.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 542,000 บาร์เรล สู่ระดับ 57.2 ล้านบาร์เรล