สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 เม.ย. 2563

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1,600 จุดเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใกล้จะถึงจุดสูงสุด หลังจากข้อมูลเผยให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐและหลายประเทศในยุโรป ชะลอตัวลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,679.99 จุด พุ่งขึ้น 1,627.46 จุด หรือ +7.73% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,663.68 จุด เพิ่มขึ้น 175.03 จุด หรือ +7.03% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,913.24 จุด เพิ่มขึ้น 540.15 จุด หรือ +7.33%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) นำโดยตลาดหุ้นเยอรมนีที่ทะยานขึ้นเกือบ 6% หลังจากมีรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลง ซึ่งได้เพิ่มความหวังว่า มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ อาจจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.73% ปิดที่ 320.58 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,346.14 จุด เพิ่มขึ้น 191.56 จุด หรือ +4.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,075.17 จุด เพิ่มขึ้น 549.40 จุด หรือ +5.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,582.39 จุด เพิ่มขึ้น 166.89 จุด หรือ +3.08%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลงในหลายประเทศของยุโรป

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,582.39 จุด เพิ่มขึ้น 166.89 จุด หรือ +3.08%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 8% เมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรซึ่งนำโดยรัสเซีย หรือ โอเปกพลัส ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมที่เดิมจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมา ไปเป็นวันที่ 9 เม.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 2.26 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 26.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 33.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 48.2 ดอลลาร์ หรือ 2.93% ปิดที่ 1,693.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2555

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 67.5 เซนต์ หรือ 4.66% ปิดที่ 15.169 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13.9 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 732 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 29.20 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 2,076.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.05 เยน จากระดับ 108.27 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9782 ฟรังก์ จากระดับ 0.9760 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4118 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4154 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0797 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0811 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2300 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2272 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6090 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.5998 ดอลลาร์สหรัฐ