รวมพลหุ้นร้อนโมนิก้าและทีมงาน
นาทีนี้หุ้นเล็กมาแรงกันเหลือเกิน จึงขอพักเรื่องหุ้นใหญ่ แล้วหันมาใส่หุ้นเล็กแทน เพราะไปๆ มาๆ ก็วนเวียนกลับมาเล่นตัวเดิมที่เม้าท์ให้ฟังเมื่อก่อนกันอยู่ดี!
เจาะกระดานหุ้น
*หากพูดถึงบทสนทนาในวงการตลาดหุ้นที่กำลังกลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ คงหนีไม่พ้นการทะยานขึ้นของหุ้นฮอตฮิตของซุ้มต่างๆ ซึ่งแต่ละค่ายกำลังผลักดันกันอย่างเต็มที่ บางตัวก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม บางตัวก็ไม่มีเอฟเฟ็กต์อะไรเกิดขึ้นเลย ขณะที่บางตัวกลับโดนถล่มอย่างไม่มีเยื่อใย โดยหุ้นทั้งหมดที่กล่าวถึงอยู่ในตระกูลหุ้นต่ำสิบเป็นส่วนใหญ่นะจะบอกให้
*สำหรับสาเหตุที่ทำให้หุ้นเหล่านั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากมวลมหาชาวหุ้น น่าจะมาจากไร้แรงกดดันจากฝรั่งตาน้ำข้าว และไม่ต้องกังวลกับท่าทีของกองทุน ที่ชอบสาดหุ้นใส่แมงเม่าเป็นประจำ วันนี้จึงกลายเป็นวันที่รายย่อยคุมเกมการลงทุนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และไม่ได้ขึ้นตรงกับหุ้นบลูชิพอีกต่อไป เพราะทางเลือกในการลงทุนเริ่มเปิดกว้างขึ้นอีกรอบไงล่ะค่ะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,430.58 จุด ลบไป 5.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นหนทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง เพราะนักลงทุนสถาบันไล่ถล่มหุ้นใหญ่ไม่เลิก ขณะที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กกลายเป็นชิ้นปลามันที่รายย่อยกระโจนเข้าใส่ บรรยากาศการลงทุนถึงแบ่งออกเป็น 2 ขั้วอารมณ์ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับแยกแยะว่า อยากได้อารมณ์แบบไหน ก็ต้องแทงให้ถูกข้างนะจ๊ะ
*สำหรับดาวเด่นที่ถูกเม้าท์ถึงตั้งแต่เช้าจรดเย็นในเที่ยวนี้ตกเป็นของ PK ซึ่งมีหลากหลายประเด็นที่หนุนให้หุ้นตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และหนึ่งในมุกที่ถูกเม้าท์กันอย่างเมามันก็หนีไม่พ้นเรื่องค่า P/E ไม่ถึง 20 เท่า บวกกับมีนักเล่นขาใหญ่เข้ามาร่วมวงกันอย่างมากมาย หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 7.05 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 21.55% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท มันเป็นเกมเสี่ยงที่ทุกคนอยากเข้ามาเล่น เดี๊ยนไม่จำเป็นต้องไปขุดคุ้ยข้อมูลบางอย่างมาแฉกระมั้ง..อิอิอิ
*เช่นเดียวกับในรายของพระเอกตัวจริง AJD ตั้งลำช่วงเช้าอยู่ตั้งนาน และทำท่าเหมือนจะขยับขึ้นช้าๆ พอตกบ่ายเท่านั้นแหละ! ทุกอย่างกลายเป็นหนังคนละม้วนกันเลยทีเดียว จากหุ้นที่ย่ำไปย่ำมาแถว 1.13-1.15 บาท เผลอแป๊บเดียววิ่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาปิดที่ 1.28 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่ขาลุยคงไม่พลาดอยู่แล้ว งานนี้บอกได้แค่ทั้งทิศทางของหุ้น และเนื้อเรื่องที่คอยหนุน ล้วนเป็นใจให้เหลือเกินพะยะค่ะ
*ทางด้านหวงเฟยหง HFT เป็นอีกหนึ่งรายที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพราะดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 4.04 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นสีสันที่นักเล่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ทั้งหมดมาจากกำไรไตรมาส 2 โตถึง 80% ทุกคนถึงวิ่งเข้าใส่อย่างไม่ลืมหูลืมตา จนหุ้นเปิดกระโดด พร้อมกับเปิดแก๊ปกว้าง แถมเกิดสัญญาณค้อนหัวกลับในช่วงท้ายตลาดแบบนี้..หากวันนี้ไม่ไปต่อ ถือว่าจบรอบนะคะ
*ส่วนที่เล่นกันแล้ว เล่นกันอีกหลายรอบ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ ASIMAR ซึ่งกลายเป็นหุ้นที่ขึ้นแรงสองวัน ส่วนอีกสองวันลงแรง เบ็ดเสร็จกลายเป็นการถีบตัวแบบบันไดขาขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดสำหรับการลงทุนเที่ยวนี้ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.68 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 530 ล้านบาท ถือเป็นช็อตที่ต้องไหลตามน้ำโดยไม่มีข้อแม้นะคะ
*เหมือนกับในรายของ AKR ทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่า นี่คือหุ้นร้อนที่ไม่สตอรี่ซัพพอร์ต แต่ทุกครั้งที่มีการเคาะขวานำทางทีไร หุ้นพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นประจำ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.04 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 230 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความท้าทายของนักเทคนิคอย่างแท้จริง เพราะรอบที่แล้วขึ้นไปไม่ผ่าน 2.30 บาท รอบนี้อาจได้ลุ้นมากกว่าเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ CSS เพราะรายนี้มีทุกอย่างแบ็กอัพไว้หมด แต่เผอิญหุ้นคงตกอยู่ในมือนักลงทุนสถาบันมากไปหน่อยมั้ง ช่วงที่ผ่านมาถึงโดนเทขายอย่างหนักหน่วงเหมือนกับบริษัทกำลังจะเจ๊ง! แต่สุดท้ายก็ไต่ระดับขึ้นมาอย่างช้าๆ จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 4.88 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 150 ล้านบาท ทั้งที่ยอดเดิมอยู่แถว 8 บาท แถมมีข่าวประมูล 4G ครึ่งปีหลังอีกแบบนี้..ไม่มีเวลาอิดออดแล้วค่ะ
*ส่วนที่ควรหยุดคิดสักนิดหนึ่ง “โมนิก้า” คิดว่าเป็นรายของ AJP ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ด้วยความโกหกหลอกลวงนานัปการ ซึ่งตัวอีฉันไม่อยากไปข้องแวะสักเท่าไหร่? แต่เผอิญมีคนของทางการกระซิบข่าวบางอย่างให้ฟังเป็นระยะ จึงรู้สึกสงสัยถึงพฤติกรรมของคนที่เข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้ ล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 13.60 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท บวกกับ P/E คิดไม่ได้ ขณะที่ P/BV ปาเข้าไป 10 เท่า รูปแบบธุรกิจยังอยู่ในวิมานเมฆ..แล้วเราเดินมาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร?
*ป.ล.นาทีนี้หุ้นเล็กมาแรงกันเหลือเกิน จึงขอพักเรื่องหุ้นใหญ่ แล้วหันมาใส่หุ้นเล็กแทน เพราะไปๆ มาๆ ก็วนเวียนกลับมาเล่นตัวเดิมที่เม้าท์ให้ฟังเมื่อก่อนกันอยู่ดี!