GULF บวกต่อ 2% รับปัจจัยบวกอื้อ! ลุยเทรดพาร์ใหม่สัปดาห์หน้า-กำไรโตเด่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ล่าสุด ณ เวลา 10.54 น. อยู่ที่ระดับ 171.50 บาท ปรับตัวขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 660.48 ล้านบาท

ทั้งนี้ราคาหุ้น GULF ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เป็น 1 บาท

โดย นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าพาร์แล้ว ทางบริษัทฯจะต้องไปยื่นขอเปลี่ยนแปลงบริคณห์สนธิกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหลังจากนั้นจึงจะมีการยื่นเรื่องต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อไป และคาดว่าหุ้น GULF จะสามารถซื้อขายในราคาพาร์ใหม่ได้ภายในช่วงสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติจัดสรรเงินกำไรสุทธิและการจ่ายเงินปันผล โดยการจัดสรรเงินกำไรสุทธิประจำปี จำนวน 155,000,045 บาท เป็นทุนสำรองตามมาตรา 116 ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม) (พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด) และข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 45 หรือคิดเป็น 5% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯประจำปี 2562 ซึ่งมีจำนวนเท่ากับ 3,100,000,909 บาท

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้นบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ราคาเป้าหมาย 192 บาท หลังมองผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จำกัด เพราะมีรายได้จากลูกค้าอุตสาหกรรมเพียง 11% ต่ำกว่าบมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) และบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) โดยรายได้ส่วนใหญ่ 89% มาจากการขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.)

ทั้งนี้ คาดกำไรปกติของ GULF ปี 2563 โตสูง 33% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนเป็น 4.68 พันล้านบาท จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้า SPP ทั้งหมด 4 โรงและโรงโซลาร์เวียดนาม 2 โรง ปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 2,701 เมกะวัตต์ (MW) จะเพิ่มเป็น 7,781 MW ภายในปี 2570

พร้อมคาดกำไรใน 5 ปีข้างหน้า (2563-67) โตสูงเฉลี่ย 39% CAGR บริษัทยังขยายการลงทุนไปด้าน Infrastructure เช่น ถมทะเลและสร้าง LNG Terminal ในมาบตาพุดเฟส 3 ฐานะการเงินอยู่ในระดับจัดการได้ แม้ลงทุนสูง