กองทุนต้องไม่ถอย

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมามีข้อมูลอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษคือ แรงซื้อของนักเล่นกลุ่มที่เป็นกองทุนในประเทศ ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยจะไปทางไหน และยังพิสูจน์ให้เห็นว่าการขึ้นมาเที่ยวนี้น่าจะเป็นเพียงความเชื่อของการโยกย้ายเม็ดเงิน โดยทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ดัชนีถึงแกว่งตัวฉวัดเฉวียนเหลือเกินไงล่ะคะ

*ประเด็นดังกล่าวถึงเป็นที่มาของความกังวลที่ว่า ดัชนีจะวิ่งทะลุ 1,250 จุดได้อย่างไร ? ในเมื่อเห็นกันทนโท่ว่าเม็ดเงินที่จะเข้ามาดันตลาดหุ้นไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน แถมกองทุนเริ่มสาดหุ้นออกมาจึงกลายเป็นไฟต์บังคับให้ดัชนีต้องทดสอบแรงขายบริเวณ 1,200 จุดอีกพักหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงมองความพร้อมของดัชนียังมาไม่เต็มสูบ และต้องมีสตอรี่ใหม่เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นเป็นระลอก ๆ เพื่อทำให้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ นะตัวเอง

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงมองเหตุการณ์ที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,228.03 จุด บวกไป 17.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.38 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์มากกว่า และยังบอกให้รู้ว่า เราไม่ทิ้งกัน! จึงไม่มีแรงขายออกมาแบบถล่มทลายแบบเมื่อก่อน ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้หุ้นหลายตัวออกอาการกระดี๊กระด๊าอีกครั้ง เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับดูการเคาะขวาวันนี้มากเป็นพิเศษเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของ AWC แหวกกระแสทุกสรรพสิ่งด้วยการขึ้นมายืนปิดที่ 4.72 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 5.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 612.60 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากสุดในห้วงเวลานี้ เพราะเมื่อดูตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้..ไม่มีคำแนะนำให้ลุยสุดซอยออกมาเลยสักแอะ เดี๊ยนเลยอยากรู้เหมือนกันว่า หลังจากหุ้นบวก 4 วันติด วันนี้จะมีการทำสถิติบวกเป็นวันที่ 5 อีกไหมเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” หันมามองดาวดับอย่างหุ้น SHR อย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 1.88 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 187.02 ล้านบาท พร้อมกับผงกหัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน เดี๊ยนเลยเกิดอาการงงเต็กขึ้นมาในทันทีว่า คนที่เข้ามาไล่ราคาหุ้นคิดอะไรกับเรื่องนี้! เพราะมองไม่เห็นสตอรี่ที่จะช่วยปั่นให้ราคาหุ้นไปยาว ๆ เลยน่ะซี

*คล้ายกับกรณีของ ITD ทะยานขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1.06 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.78 ล้านบาท ทั้งที่สถานการณ์ของบริษัทยังง่อนแง่นเหมือนเดิม “โมนิก้า” ถึงอยากหยิบยกสถานการณ์ของหุ้นตัวนี้มาเม้าท์สักหน่อย เพราะดูตามเนื้อผ้าทีไร ก็มีแต่รอยตำหนิเต็มไปหมด เดี๊ยนถึงสงสัยเหลือเกินว่า ตลาดหุ้นให้แวลูหุ้นตัวนี้เข้าไปได้อย่างไรกันนะนายจ๋า!

*ส่วนกรณีของหุ้นฟอร์มตกอย่างเช่นหุ้น TOA ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องมองให้ขาดก่อนกระโจนเข้าใส่ เพราะแพตเทิร์นการเคลื่อนตัวเหมือนกับในช่วง 2 ปีก่อนเป๊ะ ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเล่น ๆ ว่าจุดสูงสุดที่หุ้นขึ้นไปแตะบ่อยอยู่ที่ระดับ 40 บาท และจุดที่ลงมาเลียแผลก่อนขึ้นใหม่อยู่ที่ระดับ 30 บาท เป็นข้อมูลที่น่าสนใจไหม ? ต่อจากนั้นเทียบกับราคาหุ้นที่ปิดในระดับ 33.50 บาท ทรงตัวจากวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40.59 ล้านบาท นักเล่นจะรู้ได้ทันทีว่าควรทำอะไรเจ้าค่ะ

*สำหรับรายที่ผลงานยังทรงตัว และมีมูฟเมนต์ทางธุรกิจที่น่าสนใจอย่าง BCPG ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย ผนวกกับในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หุ้นเคลื่อนไหวไปมาในระดับ 17-18 บาทเป็นประจำอยู่แล้ว “โมนิก้า” ถึงมองราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 14.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47.91 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการ follow buy ได้สบาย ๆ พะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นขายยาง NER ทำผลงานได้คงเส้นคงวา และมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดขยายตัว “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตของการซื้อลงทุนได้สบาย ๆ เพราะเมื่อดูราคาหุ้นในกระดานยังย่ำอยู่ที่ 2.06 บาท ทรงตัวจากวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27.62 ล้านบาท เทียบกับบุ๊กแวลูที่ระดับ 1.96 บาท มันทำให้เห็นว่ายังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว เพราะที่ผ่านมาก็เล่นกันแถวบริเวณ 2.60 บาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่ะซี

*ตบท้ายกันที่หุ้น AMANAH กลายเป็นของเล่นสำหรับพวกขาลุยอย่างเต็มตัว และเหตุผลที่ได้รับฟีดแบคดีมาจากซื้อง่ายขายคล่อง และมีสตอรี่เกี่ยวกับการเก็งงบออกมาเป็นระลอก หุ้นถึงขยับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 2.40 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 6.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136.07 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของพวกสายลุยห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะไฟต์นี้มีโอกาส “เคาะซ้าย เคาะขวา” อีกหลายรอบเจ้าค่ะ