DTAC ร่วงหนักเหลือเกิน?
ที่สำคัญคือ เมื่อมองดูผลประกอบการ DTAC ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล เพราะยังทำกำไรได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม หรือถ้ามองในแง่ของผลประกอบการไตรมาส 2-4 ปี 58 จะออกมาแย่กว่าที่คาด น่าจะอยู่ในระดับที่ยังพอจะรับได้ และประเด็นนี้ทำให้อาจารย์โฟกัสไปที่เรื่องของการปรับพอร์ตมากกว่าเรื่องอื่นๆ
สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย
คุณประกิต จากลาดพร้าว 94 กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น DTAC หรือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่เซอร์ไพร้ซมากๆ เพราะราคาหุ้นร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาคือเครื่องการันตรีความสามารถในการทำกำไร จึงอยากจะรู้สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นตัวนี้รูดลงอย่างต่อเนื่อง
หรือเป็นเพราะตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 ปี 58 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 มีแนวโน้มออกมาในทางที่ไม่ดี ทำให้กองทุนทิ้งหุ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายนี้ขอให้คอลัมล์นี้อยู่คู่กับนักลงทุนรายย่อยเช่นนี้ตลอดไป เพราะเป็นช่องทางที่สื่อสารข้อมูลได้ดีที่สุดช่องทางหนึ่ง และยังเป็นช่องทางในการระบายความอึดอัดในใจของนักลงทุนรายย่อยได้ดีอีกด้วยนะครับ
ต้องขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีที่มีให้กับพนักงานข่าวหุ้นทุกคน และตัวอาจารย์ก็ต้องขอบคุณที่ติดตามอ่านคอลัมล์ “สภาแมงเม่า” เป็นประจำ ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นการวิพากษ์วิจารณ์แบบขวานผ่าซาก แต่ก็อยากให้รู้ไว้ว่าเป็นการทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อย ไม่ได้มีอคติกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ และข้อทั้งหมดก็เป็นการฉายแนวความคิดเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยนำไปวิเคราะห์อีกทีหนึ่ง
เหมือนกับกรณีของหุ้น DTAC หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่รูดลงมาอย่างต่อเนื่อง ถ้ามองบนพื้นฐานความเป็นจริงต้องยอมรับว่า ราคาหุ้นปรับตัวลงมากเกินความเหมาะสม ไม่ว่าจะมองในแง่ของ P/E ที่ระดับ 18 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ให้ในระดับ 5% ย่อมเป็นจุดที่ทำให้หุ้นตัวนี้เหมาะต่อการทยอยซื้อเก็บเข้าพอร์ตเป็นอย่างยิ่ง
ถึงกระนั้นต้องพิจารณาร่วมกับการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ และรูปแบบการลงทุนสั้นๆ ของกองทุนในประเทศ ซึ่งส่งผลประทบโดยตรงต่อราคาหุ้น DTAC และเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ทำให้ราคาหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อพิจารณาถึงแรงเทขายที่กดหุ้นจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่น่าจะมีนักลงทุนกลุ่มไหนทำได้รุนแรงเท่ากับนักลงทุน 2 กลุ่มดังกล่าวอีกแล้วนะครับ
ที่สำคัญคือ เมื่อมองดูผลประกอบการของบริษัทก็ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล เพราะยังทำกำไรได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม หรือถ้ามองในแง่ของผลประกอบการไตรมาส 2-4 ปี 58 จะออกมาแย่กว่าที่คาด ก็น่าจะอยู่ในระดับที่ยังพอจะรับได้ และประเด็นนี้ก็ทำให้อาจารย์โฟกัสไปที่เรื่องของการปรับพอร์ตมากกว่าเรื่องอื่นๆ
ปี 54 | ปี 55 | ปี 56 | ปี 57 | ไตรมาส 1 ปี 58 | |
รายได้รวม | 80,144.39 | 90,261.16 | 94,984.32 | 90,868.43 | 44,862.43 |
กำไรสุทธิ | 11,812.85 | 11,278.08 | 10,569.38 | 10,728.75 | 3,667.39 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 4.99 | 4.76 | 4.46 | 4.53 | 1.55 |
(หน่วย: ล้านบาท)
ฉะนั้นหากนักลงทุนพิจารณาดูแล้วพบว่า ราคาหุ้น ณ ตอนนี้ต่ำเกินไป ก็สามารถทยอยซื้อหุ้นได้เรื่อยๆ หรือหากไม่มั่นใจในเรื่องราวดังกล่าวจะอยู่เฉยๆ รอดูสถานการณืก่อนก้ได้นะครับ
…