TOP-PTTGC แสงที่ปลายอุโมงค์

สำนักข่าวรัชดา

คงแน่เหมือนแช่แป้งแล้วล่ะว่า งบไตรมาส 1/2563 ของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี อย่างบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC จะเจออุบัติเหตุกำไร..!

สาเหตุหลักมาจาก 1) ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน หรือ Stock Loss จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง…โดยช่วงปลายปี 2562 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 40-45 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 ราคาน้ำมันปรับลดลงมาอยู่ที่ 20-25 เหรียญต่อบาร์เรล

ทำให้มีการประเมินกันว่า TOP จะมี Stock loss มากถึง 13,000 ล้านบาท ขณะที่ PTTGC ก็ไม่เบา จะมี Stock loss อยู่ที่ 7,800 ล้านบาทเช่นกัน

2) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน…จากช่วงปลายปี 2562 เงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์ แต่ ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 อ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ต้นทุนน้ำมันดิบที่นำเข้ามาสูงขึ้น

โดยคาดว่า TOP จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2,450 ล้านบาท ส่วน PTTGC ขาดทุน 1,900 ล้านบาท

ขณะที่ขาของการส่งออกน้ำมันแทนที่จะดี แต่ดีมานด์กลับลดลง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ…

และ 3) กำไรจากค่าการกลั่นลดลง… เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันในประเภทต่าง ๆ ลดลง จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ

นี่เป็น 3 ปัจจัยที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักฟันธงว่า งบไตรมาส 1/2563 ของ TOP และ PTTGC จะไม่ดี..!!

โดยคาด TOP จะพลิกมาขาดทุนสุทธิสูงถึง 15,700 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,400 ล้านบาท ส่วน PTTGC ก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน จะพลิกมาขาดทุนสุทธิที่ 7,591 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,440 ล้านบาท

เรียกว่า สถานการณ์อ่วมทั้งคู่…

ขณะที่ราคาหุ้น TOP และ PTTGC ในรอบ 3 เดือนปรับลดลงไปแล้วเกือบ 40% สะท้อนในเชิงลบไปพอสมควรจากผลงานไตรมาส 1/2563 ที่ต้องออกมาแย่แน่ ๆ

แต่ก็เป็นไปได้ว่า เมื่อแจ้งงบออกมาจริง ๆ อาจเกิดปรากฏการณ์ Sell on Fact จากราคาที่ปรับลงไปมาก แต่ในทางกลับกันราคาอาจปรับลงแค่ช่วงสั้น ๆ และเกิดเป็นปรากฏการณ์ Buy on Fact ก็เป็นได้

เนื่องจากมีลุ้นว่า TOP และ PTTGC ไตรมาส 2/2563 จะฟื้นตัว..!!

เนื่องจากอาจไม่มี Stock loss ในไตรมาส 2/2563 …เพราะแนวโน้มราคาน้ำมันดิบและสเปรดปิโตรเคมีปรับเพิ่มขึ้น

ขณะที่สงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซียเริ่มสงบ นั่นเท่ากับว่า โอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับลงต่ำกว่านี้มีน้อย…โอกาสที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นมีมากกว่า

และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ก็จะยิ่งหนุนให้ความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีเพิ่มมากขึ้น

นั่นหมายถึง เป็นตัวดึงให้ TOP และ PTTGC ที่เคยดิ่งไปนอนอยู่ก้นเหว…ปีนขึ้นมาปากเหวได้เช่นกัน

ก็หวังว่า TOP และ PTTGC จะไม่โชคร้ายเจออุบัติเหตุซ้ำซ้อนหรอกนะ…

…อิ อิ อิ…