พอใจกันแค่นี้เหรอ?โมนิก้าและทีมงาน
นาทีนี้ “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่สัมฤทธิผลเท่าที่ควรนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากระบบเศรษฐกิจในประเทศที่ยังง่อนแง่น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้านก็ยังไม่ผ่านวาระการประชุม ครม. ซึ่งแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจว่าบ่มิไก๊ จึงไม่มีใครอยากจะนอนกอดหุ้นไว้นานๆ และเลือกที่จะชะลอลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนเสียก่อนเจ้าค่ะ
เจาะกระดานหุ้น
*นาทีนี้ “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่สัมฤทธิผลเท่าที่ควรนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากระบบเศรษฐกิจในประเทศที่ยังง่อนแง่น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้านก็ยังไม่ผ่านวาระการประชุม ครม. ซึ่งแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจว่าบ่มิไก๊ จึงไม่มีใครอยากจะนอนกอดหุ้นไว้นานๆ และเลือกที่จะชะลอลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนเสียก่อนเจ้าค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงเรื่อยๆ และการที่ดัชนีปิดในระดับ 1,428.79 จุด ลบไป 1.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.46 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดว่า จังหวะนี้ไม่มีใครกล้าทุ่มหน้าตักจนสุดตัว บวกกับสัปดาห์นี้มีวันหยุดคั่นกลางอีกหนึ่งวัน จึงขอดูสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน บรรยากาศถึงค่อนไปในทางวังเวงวิเวกโหวเหวไงล่ะจ๊ะ
*วันนี้ไม่ต้องถามหาเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นทิ้ง และไม่ต้องคิดเข้าข้างตลาดหุ้นไทยให้เสียเวลา เพราะข้อมูลชุดล่าสุดที่ปรากฏให้เห็นนั้น มีทั้งเรื่องเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว หรือแม้กระทั่งเฟดกำลังจะขึ้นดอกเบี้ย ฯลฯ ทั้งหมดเป็นตัวแปรที่ทำให้หุ้นบลูชิพหมดเสน่ห์ความน่าสนใจไปชั่วคราว และมองไม่เห็นโอกาสที่จะพลิกฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็วพะยะค่ะ
*ที่น่าสนใจคือ ทำไมสมาคมโบรกเกอร์ไม่มีแอ็กชั่นอะไรออกมาเลย เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนจะมีการเรียกประชุมหารือ เพื่อหามาตรการกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน แต่เดี๋ยวนี้กลับพอใจกับการเทรดหุ้นเองแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นกระบวนการทางความคิดของพวกสันหลังยาว และในไม่ช้าจะพากันตายทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขบขันเป็นอย่างยิ่งว่า วันนี้นายกสมาคมโบรกเกอร์ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้? เดี๊ยนถึงต้องออกมากระทุ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทำอะไรสักอย่าง!..ถ้าทำไม่ได้ ก็บอกกันมาตรงๆ แมงเม่าจะได้ทำใจตั้งแต่เนิ่นๆ นะจะบอกให้
*ขนาดหุ้นพื้นฐานดีอย่าง TUF ใครเลยจะคิดว่าจะโดนฟ้อง? แต่เมื่อข่าวดังกล่าวปรากฏให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ผู้คนเลยพากันแพนิคกันยกใหญ่ จากหุ้นที่เคยย่ำอยู่แล้ว ก็เลยย่ำแย่ลงไปอีก เผลอๆ อาจเจอแจ๊กพ็อตครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ตามมาติดๆ หุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 17.10 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่า 380 ล้านบาท แถมเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปีแบบนี้ สงสัยจะกู่ให้กลับค่อนข้างยากนะจ๊ะ
*ส่วนที่กลับมาอย่างทุลักทุเล และยังดีที่กลับมาได้ “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่หุ้น DTAC เพราะโดนถล่มจนลงไปกองอยู่ที่ 63 บาท แต่หลังจากนั้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะมาปิดที่ 66.75 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 402 ล้านบาท และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี 58 ย่ำไปมาที่บริเวณ 90-95 บาท นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรค่าต่อการลงทุน แต่มีข้อแม้ว่า ซื้อเพื่อหวังผลอีก 3 เดือนข้างหน้าเจ้าค่ะ
*สำหรับในรายของ TRC ของมันรู้ๆ กันอยู่ว่า มีดีซ่อนไว้เยอะแยะ และที่เห็นในวันนี้เป็นการเด้งรับมูลค่าที่ยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับติดตามดูหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะการขึ้นมาปิดที่ 2.30 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 5.50 % ด้วยมูลค่า 440 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการโหนกระแสเพื่อเปิดโอกาสในการเล่นรอบได้มากขึ้นพะยะค่ะ
*ส่วนในรายของ GENCO อาจเป็นกรณียกเว้น เพราะรายนี้เปิดไส้เปิดพุงให้ทุกคนดูหมดแล้ว (แก้ผ้า) “โมนิก้า” ถึงกล้าพูดในทันทีว่า ไม่มีอะไรน่าสนใจอีกแล้ว แถมในช่วงที่ผ่านมาเล่นประโคมข่าวเสียใหญ่โตว่า ดีลกับคนนั้น ดีลกับคนนี้ สุดท้ายกลายเป็นดีลล้มไม่เป็นท่า เดี๊ยนถึงไม่อยากให้แฟนคลับหวังอะไรกับหุ้นตัวนี้มากนัก เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.02 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ก็เป็นเพียงการดันราคาล่อแมงเม่ามารับของต่อก็เท่านั้นเอง
*ขณะที่รายของพระเอกตัวจริง AJD ยังเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์นักเล่นได้ตลอดเวลา ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.36 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคของนักโหนกระแสต้องติดตามดูให้ดีๆ เพราะเม้าท์กันสนั่นลั่นทุ่งว่า รอบนี้มีกลุ่มทุนจีนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หุ้นถึงวิ่งระเบิดระเบ้อไงล่ะค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ “สมโภชน์ อาหุนัย” หัวเรือใหญ่ของหุ้น EA บริษัทพลังงานทางเลือกอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ว่ากันว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แถมพรายกระซิบย้ำกับเดี๊ยนเป็นการส่วนตัวว่า กำไรพุ่งกระฉูด! ทุกอย่างเป็นไปตามแผน บวกกับได้ “อมร ทรัพย์ทวีกุล” คนหนุ่มไฟแรงคอยช่วยงานทุกอย่าง (เสียดายมีแฟนเสียแล้ว ไม่งั้นเดี๊ยนฉกมาเป็นเจ้าของแล้ว) เดี๊ยนถึงมองว่า ราคาหุ้นที่ 21.80 บาท บวกไป 0.20 บาท มันถูกเกินไปเมื่อเทียบกับ 30 บาทก่อนหน้านี้ไงล่ะค่ะ
*ปิดท้ายกันที่เรื่องน่าชื่นชมของคนในวงการบันเทิงที่สมาคมโบรกเกอร์ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะล่าสุดกูรูด้านบันเทิงพร้อมใจยกตำแหน่ง “นักการตลาดตัวยง” ให้กับ “เฮียฮ้อ” หรือ “สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” หัวเรือใหญ่ค่าย RS เพราะเท่าที่เปิดดู “ช่อง 8” ไม่ได้มีดีแต่ละครแซ่บ, รายการวาไรตี้สนุก หรือรายการข่าวเด่นให้ดูอย่างเดียว แต่ยังมีจัดกิจกรรมชวนแฟนๆ ร่วมเล่นเกมชิงของรางวัลมากมาย จนเรตติ้งพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่แบบนี้ เดี๋ยวตัวเลขกำไรก็โตตามมาในไม่ช้า! ปรบมือรัวๆ ให้เฮียสักหน่อยซิจ๊ะ