SIRI ปลื้มกระแส “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” แรง! อัพเป้ายอดขายไตรมาส 2 แตะ 1.2 หมื่นลบ.
SIRI ปลื้มกระแส "แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน" แรง! อัพเป้ายอดขายไตรมาส 2 แตะ 1.2 หมื่นลบ.
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทได้พิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 12,000 ล้านบาท จากล่าสุดปรับขึ้นมาที่ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายจากแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ลูกค้าตอบรับแรง เพราะเมื่อจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้วไม่ต้องมีภาระใดๆ ไปถึง 24 เดือน นำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ ตัดกังวลใจจากทั้งภาวะเศรษฐกิจหรือการงาน มีเวลาเตรียมตัวยาวไปถึง 2 ปี
ทั้งนี้บริษัทสามารถสร้างยอดขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อีกกว่า 1,700 ล้านบาทรวมกับยอดขายที่ทำได้แล้ว 2,500 ล้านบาท ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทมียอดขายในไตรมาส 2/63 รวมแล้วถึง 4,200 ภายในช่วงระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ของเดือน เม.ย.63 คิดเป็น 42% จากเป้าขายใหม่ 10,000 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวผ่านทุกสถานการณ์ด้วยความแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน
โดยปัจจัยสนับสนุน นอกเหนือจากแคมเปญที่ตอบโจทย์ ยังมาจากกลยุทธ์ความแข็งแกร่งในการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐาน SIRI พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ
พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ ซึ่งเมื่อรวมกับการส่งมอบแคมเปญที่เข้าใจใน Customer Insight จากสถานการณ์อสังหาฯที่กลุ่มลูกค้ายังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ขณะที่มีการตัดสินใจที่มากขึ้น จากสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต บริษัทจึงได้มอบแคมเปญที่สามารถตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จด้านยอดขายตั้งแต่เริ่มต้นไตรมาส 2
ทั้งนี้จากความสำเร็จของแคมเปญ ยังส่งผลให้ ปิดการขายเพิ่มเติมอีก 2 คอนโดมิเนียม ต่อจากการปิดการขายโครงการไทเกอร์ เลน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการ ดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต มูลค่าโครงการ 910 ล้านบาท และ เดอะ เบส เพชรเกษม มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
โดยมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเก็บจากเหตุผลด้านราคาที่ดีมากและเชื่อมั่นว่าราคาจะสูงขึ้นอีกในอนาคต ด้วยศักยภาพทั้งในด้านจุดเด่นของตัวโครงการและศักภาพของทำเลที่ตั้งและความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์แสนสิริ โดยโครงการดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต ราคาเฉลี่ย 65,000 บาทต่อตารางเมตร มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าจากการปิดการขาย ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุน ในสัดส่วน 50 : 50% มีอัตราผลตอบแทนต่อการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึงเกือบ 6%
รวมทั้ง เดอะ เบส เพชรเกษม ราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อตารางเมตร มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุน ในสัดส่วน 60 : 40 และมีอัตราผลตอบแทนต่อการปล่อยเช่า (Yield) ถึง 4.5-5.5% นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จครอบคลุมโปรดักส์ในทุกเซกเมนต์ ทั้งในแนวสูงและแนวราบ โดยจ่อคิวปิดการขายอีก 6 โครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับการตอบรับที่ดี ได้แก่ดีคอนโด กำแพงแสน มียอดขายแล้ว 98% คาดปิดการขายได้ภายในสัปดาห์หน้า
โดยดีคอนโด หาดใหญ่ มียอดขายแล้วถึง 80%, ลา กาซิตา หัวหิน มียอดขายดี 85%, เดอะ เบส สุขุมวิท 50 ยอดขาย 80%, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ ยอดขาย 85% และเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 มียอดขายแล้ว 80%
ในขณะที่ยอดขายโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว – ทาวน์โฮม สูงขึ้นต่อเนื่องในทุกสัปดาห์ และคิดเป็นสัดส่วนถึง 90% จากยอดขายรวม 4,200 ล้านบาทที่ทำได้ในไตรมาส 2/63
นอกจากความสำเร็จในการส่งมอบแคมเปญที่เข้าใจและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ยังมาจากการที่บริษัทรุกการขายในทุกช่องทางที่สามารถตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิด ด้วย Multi-Channel ซื้อขายครบในทุกช่องทาง ซื้อและเยี่ยมชมโครงการง่ายแค่ปลายนิ้ว ได้แก่ ช่องทางที่1 : Sansiri Virtual Sales Gallery เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงบน www.sansiri.com, แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล
ช่องทางที่ 2 : Line Official Account ที่ @Sansiriplc ช่องทางที่ 3 : Facebook Sansiri PLC ช่องทางที่ 4 : Visit Site เยี่ยมชมโครงการแบบ private tour ที่ทั้งปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ช่องทางที่ 5 : 24 Hrs. Online Booking จองคอนโดออนไลน์ 24 ชั่วโมง และช่องทางที่ 6 : Call Centre 1685