สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 เม.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 เม.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน รวมทั้งความหวังที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะอนุมัติมาตรการวงเงินเกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างมาตรการดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,475.82 จุด เพิ่มขึ้น 456.94 จุด หรือ +1.99% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,799.31 จุด เพิ่มขึ้น 62.75 จุด หรือ +2.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,495.38 จุด เพิ่มขึ้น 232.15 จุด หรือ +2.81%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น แม้นักลงทุนยังคงระมัดระวังกับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากขึ้นได้เปิดเผยคาดการณ์งบการเงินที่น่ากังวล

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.80% ปิดที่ 330.14 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,411.80 จุด เพิ่มขึ้น 54.34 จุด หรือ +1.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,415.03 จุด เพิ่มขึ้น 165.18 จุด หรือ +1.61% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,770.63 จุด เพิ่มขึ้น 129.60 จุด หรือ +2.30%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน และการที่บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในเชิงบวก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,770.63 จุด เพิ่มขึ้น 129.60 จุด หรือ +2.30%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่ว่าจะยิงเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นขานรับรายงานการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 19.1% ปิดที่ 13.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 20.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกที่เผชิญกับความไม่แน่นอนเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 50.5 ดอลลาร์ หรือ 2.99% ปิดที่ 1,738.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 45.9 เซนต์ หรือ 3.09% ปิดที่ 15.335 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 765.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 15.40 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,892.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะอนุมัติมาตรการวงเงินเกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างมาตรการดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9721 ฟรังก์ จากระดับ 0.9699 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.71 เยน จากระดับ 107.77 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4185 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4199 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0820 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0853 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2315 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2281 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6287 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button