หมอให้เปิดใครอยากปิด
เสาร์อาทิตย์เบื่ออยู่บ้านมาก อยากชวนครอบครัวขับรถเที่ยว ถนนก็โล่ง น้ำมันก็ถูก อยากไปใกล้ ๆ อยุธยา สระบุรี นครนายก เสียอย่างเดียว ไม่รู้จะไปหาข้าวกินที่ไหน คงต้องซื้อมากินในรถ
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
เสาร์อาทิตย์เบื่ออยู่บ้านมาก อยากชวนครอบครัวขับรถเที่ยว ถนนก็โล่ง น้ำมันก็ถูก อยากไปใกล้ ๆ อยุธยา สระบุรี นครนายก เสียอย่างเดียว ไม่รู้จะไปหาข้าวกินที่ไหน คงต้องซื้อมากินในรถ
สุดท้ายไม่ได้ไป ติดภาระหลายอย่าง แต่เชื่อเถอะคนชั้นกลางพอมีกินคิดอย่างนี้ไม่น้อย สังเกตว่ารถเริ่มติด คนออกจากบ้านมากขึ้น เพราะเห็นว่าสถานการณ์น่าจะผ่อนคลายได้แล้ว
ส่วนคนหาเช้ากินค่ำไม่ต้องพูดถึง อยากให้ปลดล็อกจะแย่อยู่แล้ว ให้เปิดค้าขายได้บ้าง ให้เลิกเคอร์ฟิว จะได้พอมีเวลาเดินทาง คนขายของช่วงค่ำมีเวลาหากินมากขึ้น
มิตรสหายในเฟซ โพสต์ภาพโชว์ว่า อำเภอเขาให้เปิดร้านหมูกระทะแล้ว อ้าว จะเป็นไรไป ก็ร้านในชนบท ไม่ติดแอร์ มีพื้นที่โล่งกว้าง ให้นั่งห่าง ๆ กัน
แต่อยากแวะไปบ้างก็ไม่ได้ เพราะข้ามจังหวัดต้องกักตัว 14 วัน นครรัฐบุรีรัมย์เปิดร้านค้าร้านอาหาร 1 พ.ค.นี้ แต่ต้องติดสติกเกอร์แสดงความเป็นพลเมืองบุรีรัมย์บนบัตรประชาชนไทย คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ไม่งั้นกักตัว 14 วัน
นี่เป็นมาตรการประหลาด โคราชไม่พบผู้ติดเชื้อมาเกิน 14 วัน สุรินทร์ ศรีสะเกษ ขอนแก่น ก็ไม่ได้เสี่ยงกว่ากัน ทำไมจังหวัดต่าง ๆ ยังห้ามคนเดินทาง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำมาหากิน เออ ถ้ามาจากภูเก็ต ยะลา ก็ว่าไปอย่าง เพราะแถบนั้นยังเสี่ยงสูง
สถานการณ์โควิดในประเทศไทยเริ่มควบคุมได้ ทำไมรัฐบาล ศบค. มหาดไทย ผู้ว่าฯ ยังต้องคงมาตรการบังคับเข้มข้น ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ และละเมิดสิทธิประชาชนเกินกว่าเหตุ จนคนฆ่าตัวตายจะมากกว่าตายเพราะโควิด คนถูกจับมากกว่าคนติดเชื้อสิบเท่า
นี่ไม่ใช่ประชาชนทึกทักเอาเอง ว่าผ่อนคลายได้ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและระบาดวิทยา 14 คน ประชุมกันทำข้อเสนอถึงรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ให้เริ่ม “ปลดล็อก” กลับเข้าสู่วิถีชีวิตปกติแบบ New Normal โดยเริ่มทดลองบางจังหวัดตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.
ข้อเสนอของแพทย์ 14 ท่านชัดเจนว่าถ้ายังใช้มาตรการนี้ต่อไป ก็มีต้นทุนสูงทั้งทางเศรษฐกิจสังคม ถ้านานไปโดยไม่จำเป็น “จะกระทบรุนแรงต่อประชากรที่มีรายได้น้อย มีหนี้สินครัวเรือนสูง ทำให้เกิดการตกงาน 5-7 ล้านคน”
New Normal ก็คือกลับสู่ชีวิตปกติแต่ต้องระมัดระวัง ใส่หน้ากาก ล้างมืออยู่เสมอ รักษาระยะห่าง ให้ธุรกิจเดินหน้าได้ แต่ปรับตัวให้มีความเสี่ยงต่ำ ลดจำนวน จำกัดเวลาใช้สถานที่ ยังไม่ให้เปิดผับบาร์คาราโอเกะที่ความเสี่ยงสูง
ข้อเสนอนี้ กระทรวงสาธารณสุขยื่นให้รัฐบาลไปแล้ว ไม่ทราบทำไมยังเงียบอยู่ ว่ากันว่า ศบค.ยังรอความเห็นจาก “ฝ่ายความมั่นคง” ที่รวบรวมโดย สมช.
เราทำสงครามกับไวรัสนะ ต้องฟังคำแนะนำของหมอ ไม่ใช่ทำสงครามคอมมิวนิสต์หรือรบกับเสื้อแดงติ่งส้ม จึงต้องรอฟัง สมช. ทหาร ตำรวจ ว่าเคอร์ฟิวจับไวรัสได้กี่ตัว
ไม่รู้ทำไม รัฐบาล ศบค. ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะยังไม่เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะต่ออายุไปอีก 1 เดือน ยังไม่เลิกเคอร์ฟิวง่าย ๆ กว่าจะยอมให้ผ่อนคลายก็อาจเป็นกลางเดือน
เพราะการผ่อนคลายยอมให้เปิดห้างร้านไม่ใช่ทำได้ปุบปับ ต้องบอกให้ภาคธุรกิจเตรียมตัว ต้องประกาศล่วงหน้า 5-7 วัน
อย่าลืมว่าที่ประชาชนยอมฟังคำสั่งรัฐบาล เพราะเชื่อว่าเป็นคำสั่งแพทย์ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ไม่มีความหมายถ้าไม่อ้างใบรับรองแพทย์
เมื่อแพทย์แนะนำให้ปลดล็อก รัฐบาลไม่ยอมปลด ประชาชนอยากปลด ความขัดแย้งระหว่างรัฐฉุกเฉินกับประชาชนก็จะรุนแรงขึ้น