ชัดเจนก็ไปต่อ ?
*ในที่สุดเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดความกังวลก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นดราม่าสำหรับประเทศไทยไปเสียแล้ว เพราะผู้คนมากมายต่างมีความรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางของมันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จู่ ๆ กลับโดนผู้มีอำนาจในศบค. (ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) เอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง จึงก่อให้เกิดคำถามมากมายในสังคมว่า วันนี้ต้องก้มหน้าทำงานหนักต่อไปแบบไม่มีกำหนดใช่ไหม ?
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ในที่สุดเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดความกังวลก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นดราม่าสำหรับประเทศไทยไปเสียแล้ว เพราะผู้คนมากมายต่างมีความรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางของมันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จู่ ๆ กลับโดนผู้มีอำนาจในศบค. (ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) เอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง จึงก่อให้เกิดคำถามมากมายในสังคมว่า วันนี้ต้องก้มหน้าทำงานหนักต่อไปแบบไม่มีกำหนดใช่ไหม ?
*เนื่องจากคนไทยรู้แนวทางป้องกันตัวเองจากไวรัสมรณะดีขึ้นเป็นลำดับ จนได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วโลกที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี (ยามคับขันคนไทยมักมีน้ำหนึ่งใจเดียวเสมอ) รวมทั้งการปลดล็อกให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าก็ทำให้ทุกคนเริ่มมีหวังกับเศรษฐกิจมากขึ้น แต่จู่ ๆ เจ้าประคุณรุนช่องกลับยึดวันหยุดไปหน้าตาเฉย ส่งผลให้กระแสตีกลับอย่างรวดเร็ว เพราะรับไม่ได้กับความเชื่อที่ว่า อาจก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากเจ้าค่ะ
*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะความจริงคือคนส่วนใหญ่อยู่บ้าน (ตกงานกันเป็นเบือ) และอีกส่วนหนึ่งยังต้องทำงานแบบ WFH แถมสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่าง ๆ ยังถูกใส่กุญแจปิดตาย (เลยอยากนอนอยู่บ้านเฉย ๆ) ผู้คนส่วนใหญ่เลยมองการประกาศที่ออกมาแบบไม่ทันตั้งตัว เหมือนเป็นการบังคับที่ออกไปในทางเลยขอบเขต แต่สุดท้ายครม.ก็ออกมายืนยันให้คงวันหยุดตามเดิม..เลยจบดราม่าในทันที และทำให้ผู้คนเบิกบานอีกครั้งนะคะ
*เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีการเคลื่อนตัวไปในทางที่ดีขึ้น ย่อมทำให้ผู้คนคาดหวังถึงตัวเลขผลประกอบการจะดีขึ้นตามไปด้วย จึงกระโจนเข้ามาไล่ราคาหุ้นอย่างคึกคัก จนดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,274.99 จุด บวกไป 7.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.05 หมื่นล้านบาท พร้อมกับจุดประกายความหวังของเหล่านักเล่นให้เคาะขวาต่อไปอีกระยะหนึ่งนะจ๊ะ
*โดยเฉพาะจังหวะที่มีการปลดล็อกธุรกิจแต่ละส่วนเป็นลำดับ “โมนิก้า” มองเห็นแรงซื้อไหลพรวดเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อที่ว่า เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจกำลังจะเริ่มสะพัด และสถานการณ์ทุกอย่างน่าจะเห็นชัดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. เดี๊ยนเลยอยากรู้เหมือนกันว่า แฟนคลับมองเห็นเหมือนกับสิ่งที่เดี๊ยนเห็นไหม ? เพราะเรื่องดังกล่าวจะเป็นตัวแปรที่บอกให้รู้ว่าดัชนีควรไปต่อไหม ?
*ส่วนรายที่น่าจะไปต่อแน่นอนในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” มองไปยังหุ้นปูนใหญ่ SCC เป็นลำดับแรก เพราะการให้ร้านอาหารที่ทำแบบโอเพนแอร์ทั่วประเทศขายได้ ย่อมเป็นแรงกระตุ้นทางอ้อมให้กระดาษที่จะเอามาทำกั้นฉากขายดี รวมทั้งยอดขายในหมวดธุรกิจอาหารกล่องแบบเดลิเวอรี่ก็โตกระฉูด เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 339 บาท บวกไป 9 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท มีแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไทนะเธอ
*คล้ายกับกรณีของ SAWAD ร่วงลงมาจากระดับเกือบ 70 บาท พร้อมกับลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 30 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ยังไม่สามารถวิ่งผ่านแนวต้านบริเวณ 57 บาทขึ้นไปได้สักที ขณะที่ดีสุดของวานนี้ขึ้นไปบริเวณ 56.25 บาท และพยายามไปต่อให้สุดซอย แต่ทำได้เพียงแค่ยืนปิดที่ 54 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.61 พันล้านบาท เดี๊ยนบอกได้แค่วันนี้มีลุ้นแก้มืออีกรอบ เพราะแวลูจริง ๆ อยู่สูงกว่านี้เยอะเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER หุ้นขวัญใจแมงเม่าที่นิยมหุ้นต่ำบาท ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะเมื่อมองจากบุ๊กแวลูที่ระดับ 0.57 บาท บวกกับที่ผ่านมาก็เล่นกันแถว 0.60-0.65 บาท “โมนิก้า” ถึงมองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.53 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำ เพราะตัวเลขกำไรยังเป็นไปตามเป้า เลยไม่มีอะไรต้องวอร์รี่น่ะซี
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น THANI เพื่อชี้ให้เห็นว่าเมื่อเจ้ามือกระโดดลงมาเล่น ราคาหุ้นก็แหวกกระแสขึ้นมาทันที เพราะเมื่อลงไปดูในรายละเอียดของตัวธุรกิจ ก็ไม่เห็นมีส่วนไหนที่ทำให้เชื่อว่าทุกอย่างไปได้สวย! เดี๊ยนถึงสงสัยการขึ้นมายืนปิดที่ 4.04 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 392 ล้านบาท อาจเหมือนกับเหตุการณ์ครั้งก่อนที่ “แตะปุ๊บ ลงปั๊บ” เจ้าค่ะ