ขายลดแรงปะทะ

*หากมองตามสูตรลงทุนที่นิยมใช้เป็นเวลานาน “โมนิก้า” พูดได้ในทันทีว่าวันนี้เป็นจังหวะของการขายหุ้นเพื่อลดแรงปะทะที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ม้าแก่ชำนาญทางเข้าใจเป็นอย่างดี และไม่มีความจำเป็นต้องไปสั่งสอนอะไรให้มากความ เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่า ช่วงนี้ยังไม่มีสตอรี่บิลต์อารมณ์ใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นความอยากเล่นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ น่ะซี


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองตามสูตรลงทุนที่นิยมใช้เป็นเวลานาน “โมนิก้า” พูดได้ในทันทีว่าวันนี้เป็นจังหวะของการขายหุ้นเพื่อลดแรงปะทะที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ม้าแก่ชำนาญทางเข้าใจเป็นอย่างดี และไม่มีความจำเป็นต้องไปสั่งสอนอะไรให้มากความ เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่า ช่วงนี้ยังไม่มีสตอรี่บิลต์อารมณ์ใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นความอยากเล่นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ น่ะซี

*เมื่อเข้าใจเนื้อเรื่องออกมาในโทน “พักเพื่อไป” ก็ไม่มีความจำเป็นต้องฝืนเล่นท่ามกลางความรู้สึกที่ขัดอยู่ในใจ แต่ถ้าใครอยากจะเดินหน้าเล่นต่อเพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับชีวิต ก็รีบกระโจนเข้าใส่แบบเต็มเหนี่ยวไปได้เลย “โมนิก้า” ไม่มีอะไรขัดข้องใจเช่นกัน เพราะจังหวะนี้เป็นช่วงเวลาของการเดาทางว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ไหม ? และเจ้าไวรัสมรณะกำลังจะหมดพิษสงจริงไหม ?

*ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับลองพิจารณาความเป็นไปได้สักนิดหนึ่ง และอยากให้มองถึงความจริงเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยเข้าเขตซื้อมากเกินไปอีกครั้ง มันกลายเป็นตัวถ่วงรั้งที่ทำให้ดัชนีเดินหน้าลำบากขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน ? หรือแม้กระทั่งเรื่องการปลดล็อกที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทจดทะเบียน ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีสามารถยืนปิดในระดับ 1,282.68 จุด บวกไป 7.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.91 หมื่นล้านบาท อาจเป็นจังหวะที่สวยหรูมาก ๆ ในภาวะแบบนี้ เพราะแสดงถึงแรงซื้อยังมีเข้ามาต่อเนื่อง บวกกับนักเล่นกลุ่มปอบผีฟ้าและแมงเม่ายังมีแนวคิดโลกสวยไม่เปลี่ยนแปลง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สามารถรับฟังได้ และมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือเยอะเลยทีเดียว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเกาะติดหุ้นใหญ่ที่กลับมาเปล่งแสงวิบ ๆ วับ ๆ ไงล่ะคะ

*โดยเฉพาะในรายของน้อง BAM กระชากขึ้นมาปิดที่ 24.50 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.18 พันล้านบาท ทั้งที่สองสามวันก่อนยังมีอาการเซื่อง ๆ ซึม ๆ แต่วานนี้กลับแสดงกำลังภายในด้วยการกระชากขึ้นพรวดเดียว “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ขาประจำมองว่าหุ้นน่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 25 บาทอีกครั้ง ส่วนจะทำสำเร็จหรือไม่ ? ต้องติดตามดูกันต่อไปจ้า..

*เหมือนกับในรายของ EGCO กระชากขึ้นพรวดพราดเป็นวันที่สอง ก่อนจะปิดเกมที่ระดับ 290 บาท บวกไป 15 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองได้แค่ประเด็นเดียวคือ กองทุนเจ้าเก่าเข้ามาเล่น และเหตุผลของการเข้ามาเล่นก็มาจากคาแร็กเตอร์ของหุ้นอยู่ในกลุ่มปลอดภัยสูง ไม่หวาดหวั่นกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และที่สำคัญคือวันนี้ต้องเทรดบนพี/อี 15 เท่า (เป้า 360 บาท) ได้แล้วนะตัวเอง!

*ส่วนในรายของ PTT พยายามสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายยังขึ้นไปไม่ได้เสียที ก็คงไม่ต้องซีเรียสอะไรทั้งนั้น เพราะของมันแบเบอร์มาตั้งแต่ต้นว่า องค์ประกอบรอบด้านไม่เป็นใจให้เสียเลย “โมนิก้า” ถึงมองแค่การยืนปิดที่ 34 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.37 พันล้านบาทก็เป็นบุญกะลาหัวนักหนาแล้ว ไม่เชื่อลองไปถามซีอีโอดูก็ได้ว่าสถานการณ์แบบนี้ ทำ..อะไรได้บ้างเจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ AWC อย่างสิ้นเชิง เพราะหุ้นตัวนี้มีมุมให้ชาวหุ้นตั้งข้อสงสัยเยอะแยะไปหมด แต่ราคาหุ้นก็ดั้นด้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะงักไปชั่วขณะหนึ่งนั้น “โมนิก้า” ถึงตีความเรื่องนี้ได้เพียงอย่างเดียวว่า กองทุนชอบใหญ่ ๆ ส่วนพวกเล็ก ๆ ถอยไปให้ไกล วานนี้หุ้นเลยขึ้นมาปิดที่ 5.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 393 ล้านบาท เพียงเพราะจะถูกเอาไปคำนวณ MSCI ก็เท่านั้นเอง!

*เช่นเดียวกับในรายของ THAI ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.35 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 575 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมดันหุ้นเพื่อล็อกราคาเพิ่มทุนเหมือนที่แล้วมาทั้งนั้น หลังต้องแบกรับภาระหลายอย่างจนหนี้ท่วมหัว เดี๊ยนถึงมองว่านี่คงเป็นเกมเฉพาะกิจที่ดูดีในระยะสั้น ๆ แต่ในระยะยาวคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ตายหยังเขียดอีกแล้วค่ะท่าน!

*ป.ล.วานนี้ “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ร่วมมือกันสาดหุ้นออกมาร่วมพันล้าน แต่หุ้นไทยยังบวกสวนขึ้นไปได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนเป็นการส่งสัญญาณเป็นนัยให้รู้ว่า วันนี้ถึงเวลาทดสอบของจริงอีกรอบแล้วนะจ๊ะ

Back to top button