“พาณิชย์” ไฟเขียว ต่างชาติลงทุนในไทยเพิ่มอีก 26 ราย เม็ดเงินรวมกว่า 1,318 ลบ.
"กระทรวงพาณิชย์" ไฟเขียว ต่างชาติลงทุนในไทยเพิ่มอีก 26 ราย เม็ดเงินรวมกว่า 1,318 ลบ. เกิดการจ้างงานคนไทย 841 คน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว มีมติอนุญาตให้คนต่างชาติ 26 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น จีน และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,318 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 841 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้ จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการขุดเจาะ และการใช้สลิงสำหรับขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของเครื่องกำเนิดไอน้ำที่ใช้หลักการแลกเปลี่ยนความร้อน องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับการเงิน (Fintech) และระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ (Block chain) องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์แบบปราศจากใยหิน องค์ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านรังสี และการเดินเครื่องฉายรังสี
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาตในครั้งนี้ ได้แก่
1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 6 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีส มีเงินลงทุนจำนวน 164 ล้านบาท อาทิ บริการศูนย์กระจายสินค้าประเภทชิ้นส่วนของรถยนต์ บริหารจัดการและควบคุมการผลิตพลังงานไอน้ำ และระบบการจัดการสาธารณูปโภค ที่ผลิตจากเครื่องจักรสำหรับผลิตไอน้ำ บริการให้คำปรึกษา แนะนำ และบริหารจัดการในด้านต่าง ๆ
2. ธุรกิจนายหน้า ค้าปลีก ค้าส่ง จำนวน 9 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี และเนเธอแลนด์ มีเงินลงทุนจำนวน 578 ล้านบาท ได้แก่ นายหน้าประกันวินาศภัยประเภทการจัดการให้มีการประกันภัยโดยตรง ค้าปลีกแม่พิมพ์ที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์นำแสง (Light guide products) สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าส่งสินค้าประเภทไหมปัก (Thread)
3. คู่สัญญากับเอกชน จำนวน 6 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง มีเงินลงทุนจำนวน 494 ล้านบาท ได้แก่ บริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย บริการจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ และทดสอบอุปกรณ์โทรคมนาคมเพื่อส่งผ่านข้อมูลด้วยคลื่นวิทยุในเครือข่ายระบบ 3G บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม
4. คู่สัญญาช่วงภาครัฐ จำนวน 1 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศฝรั่งเศส มีเงินลงทุนจำนวน 3 ล้านบาท ได้แก่ บริการฝึกอบรม (Training) และให้คำปรึกษาแนะนำการปฏิบัติงานเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์
5. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 4 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และมาเลเซีย มีเงินลงทุนจำนวน 79 ล้านบาท อาทิ บริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ ประเภทการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ และบริการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้คำปรึกษาแนะนำ และติดต่อประสานงานกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศไทย (Logistics Service Provider) ออกแบบ เครื่องจักร อุปกรณ์และชิ้นส่วนประเภท ROBOT SYSTEM และ ROBOT HAND และอุปกรณ์จับยึด (JIG)
นายวุฒิไกร กล่าวว่า สำหรับเดือนเมษายน 2563 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการทำงานของบริษัทในเครือในกลุ่มให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ธุรกิจที่เป็นคู่สัญญาอันจะช่วยส่งเสริมตลาดทุน และประกอบธุรกิจซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ
อนึ่ง ในเดือนม.ค.-เม.ย.63 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาตแล้ว 92 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,328 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น 23 ราย คิดเป็น 33%
โดยมีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจ อาทิ บริการขุดเจาะปิโตรเลียม บริการขุดลอกบำรุงรักษาร่องน้ำและแอ่งจอดเรือที่บริเวณท่าเทียบเรือ บริการออกแบบ จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม บริการจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ และทดสอบอุปกรณ์โทรคมนาคม เป็นต้น