หุ้นหลังโควิด-19

มีคำถามว่า หุ้นที่น่าสนใจหลังโควิด-19 มีกลุ่มไหน ตัวไหนบ้าง


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

มีคำถามว่า หุ้นที่น่าสนใจหลังโควิด-19 มีกลุ่มไหน ตัวไหนบ้าง

ประเด็นนี้เชื่อว่าทั้งนักวิเคราะห์ และนักลงทุนต่างสนใจกันอยู่ และน่าจะพอเริ่มมองเห็นกันแล้วล่ะ

พร้อมกับมีคำถามเพิ่มว่า แล้วหุ้นที่เคยได้รับความสนใจจากนักลงทุน ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ยังจะได้รับความน่าสนใจเหมือนเดิมหรือเปล่า

เรื่องนี้ฟังแล้วทำให้นึกถึง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจากการลงทุนในตลาดหุ้น และประธานบริษัทโฮลดิ้งข้ามชาติ “เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์”

เพราะล่าสุดเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เพิ่งตัดสินใจขายหุ้นสายการบิน 4 แห่งของสหรัฐฯ

สายการบินที่ว่านี้คือ อเมริกันแอร์ไลน์ส เดลตา แอร์ไลน์ส เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส

บัฟเฟตต์ ยอมรับว่าเขา “ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด”

ก่อนหน้านี้ บัฟเฟตต์ คงประเมินแล้วว่า หุ้นสายการบินที่เขาถือหุ้นอยู่นั้น น่าจะดีที่สุดแล้ว

เพราะผลประกอบการที่ผ่านมานั้นดูดีมาก

ทว่า เขาก็คงคาดไม่ถึงว่า สายการบินทั่วโลก จะต้องเผชิญกับปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

เครื่องบินส่วนใหญ่ของสายการบินต่าง ๆ จอดนิ่งอยู่กับที่นับพัน ๆ ลำ

เช่นเดียวกับกัปตัน และแอร์ โฮสเตสที่ต่างต้องหางานเสริมกันวุ่นวายไปหมด

ย้อนกลับมาที่ตลาดหุ้นไทย

ก่อนหน้านี้หุ้นสายการบินในประเทศไทย ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากเท่าไหร่

เหตุเพราะผลประกอบการของแต่ละสายการบินนั้น…. ดูกันไม่ค่อยจืด

แต่หากเป็นหุ้นสนามบิน เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ถือเป็นหุ้นระดับ top pick ของโบรกฯ ทุกสำนัก

และเป็นหุ้นที่นักลงทุนเทรดกันเยอะมาก ติดอันดับมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5-10 อันดับแรกมาโดยตลอด

เช่นเดียวกับตอนนี้ ก็ยังมีวอลุ่มสูงอยู่

คำถาม..? หลัง AOT แจ้งผลประกอบการในไตรมาสที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ซึ่งเชื่อว่าออกมาไม่ดีแน่นอน กำไรน่าจะหายไปเยอะ

และต่อจากนี้ไป กำไรก็ยังน่าจะลดลง เพราะอุตสาหกรรมการบิน ยังไม่น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วมากนัก

คนส่วนใหญ่ยังระแวง หรือกังวลกับการเดินทาง

นี่ยังไม่รวมกับสายการบินต่าง ๆ จะต้องลดจำนวนผู้โดยสารลงจากหลัก social distancing

AOT เองก็ต้องยึดกับหลัก social distancing เช่นกัน ทำให้เกิดการ “จำกัด” ของผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้บริการสนามบิน ที่อาจจะไม่ได้มากเหมือนเดิม

คำถาม คือ หากผลประกอบการ AOT ยังคงปรับลง

แล้วหุ้นจะยังคงได้รับความสนใจเหมือนเดิมหรือเปล่า

หุ้น BTS กับ BEM ที่นักวิเคราะห์ต่างเชียร์กันก่อนหน้านี้ว่าเป็นหุ้น Defensive หรือยากต่อการเกิดการ Disruption

ผ่านมาถึงตอนนี้ แม้ราคาหุ้นจะฟื้นตัวมาในระดับหนึ่ง

ทว่า ปริมาณของผู้โดยสาร เชื่อว่ายังไม่น่าจะกลับมาโดยเร็ว เพราะยังต้องยึดหลัก social distancing ไปอีกพักใหญ่

แล้วก็ไม่แน่ใจด้วยว่า ความมั่นใจของผู้โดยสาร และพฤติกรรมการใช้รถขนส่งสาธารณะจะเปลี่ยนไปหรือไม่

เพราะหลายบริษัทตอนนี้ เริ่มกำลังเห็น “หนทางใหม่” จากการทำงานที่บ้านของพนักงาน

โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ช่วยการทำงานมากขึ้น

หุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ล่าสุดถูก “ฟิทช์ เรทติ้งส์” ปรับลดอันดับเครดิตจากระดับ BBB+ ลดลงมาที่ระดับ BBB

หรือเกือบจะเป็นระดับต่ำสุดของ Investment Grade

MINT ทำธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร

แน่นอนว่า ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างมาก

และยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่กำลังรับผลกระทบจากโควิด-19 ที่อาจต้องใช้เวลาฟื้นตัว

ส่วนหุ้นบางตัวอาจหายไปกับโควิด-19 เลยก็ว่าได้

ขณะที่หุ้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เป็นหุ้นที่เกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ หุ้นที่เกี่ยวกับ New Normal หลังจากจบ (หรืออาจจะไม่จบ) โควิด-19

Back to top button