ควรเข้าสู่การผ่อนปรนระยะ 2

ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

นับแต่การผ่อนปรนระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นอกจากจะไม่มีอะไรเลวร้ายลงแล้ว สถานการณ์ยังเริ่มดีขึ้นมาเป็นลำดับ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเลขตัวเดียว 3 รายก็มี และ 1 รายก็ยังมี

ตัวเลขผู้ติดเชื้อ 18 รายที่เข้ามาในวันจันทร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งถูกกักกันตัวอยู่ที่ศูนย์ฯจังหวัดสงขลา ซึ่งหากไม่มีตัวเลขนี้ สถิติคนไทยติดเชื้อจะเท่ากับศูนย์

สถิติผู้ติดเชื้อล่าสุด วันที่ 7 พ.ค. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เสียชีวิตไม่มี จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 2,992 ราย รักษาหาย 2,772 ราย คิดเป็นร้อยละ 92 จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 55 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.8

ระบบสาธารณสุขของไทย จารึกไว้ได้เลยว่า สามารถรองรับการรักษาผู้ป่วยได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีการปฏิเสธการรักษา เหมือนในสหรัฐฯ อังกฤษ อิตาลี ที่ปล่อยให้ผู้ป่วยตายไปต่อหน้าต่อตา

มีรายงานจังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยในช่วง 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 5 จังหวัดคือ เชียงใหม่ พิษณุโลก ลำปาง ชัยภูมิ และตรัง รวมเป็น 39 จังหวัดแล้ว

การผ่อนปรนระยะที่ 1 ที่ผ่านมา อย่างน้อยก็ได้ “คืนอาชีพ” ให้แก่คนส่วนหนึ่งจำนวนไม่น้อย สนามกอล์ฟทั่วประเทศ 315 แห่งที่มีแรงงานเกี่ยวข้องกว่า 2 แสนคน ก็เปิดได้ ร้านอาหารก็ขยายบริการได้มากขึ้น สวนสาธารณะ และร้านตัดผม-เสริมสวย ก็กลับมาเปิดได้ภายใต้นิว-นอร์มัลใหม่

เป็นการผ่อนปรนที่แบ่งตามพื้นที่สีขาวและเขียว

การผ่อนปรนระยะที่ 2 ที่จะเกิดขึ้น ก็คงจะเป็นธุรกิจในพื้นที่สีเหลือง เป็นกิจการที่มีพื้นที่ปิด มีขนาดใหญ่ และมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็คงจะเป็นห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น โฮมโปร สยามโกลบอลฯ นั่นแหละ

ส่วนจะกลับมาเปิดแบบฟูลสเกลหรือแค่บางส่วนก็คงจะต้องมารอลุ้นกันอีกที

ตามคำแถลงของนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ก็มีแนวโน้มสูงว่า ธุรกิจในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ คงจะเปิดได้แน่นอน

นี่ก็เป็นเรื่องน่ายินดี ที่ธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้นและมีพนักงานจำนวนมาก เช่น ร้านวัสดุก่อสร้าง อาทิ โฮมโปร สยามโกลบอล บุญถาวร และดูโฮม จะได้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง

สำหรับห้างสรรพสินค้า ก็ยังมีลุ้นว่าจะกลับมาเปิดได้ ซึ่งโฆษก (ศบค.) พูดไว้ในเชิงหลักการว่า “หากควบคุมสถานการณ์ได้ดี ก็คงเปิดได้แน่นอน”

การผ่อนปรนระยะที่ 2 เป็นเรื่องที่น่ายินดีแน่นอน แต่ก็ต้องเข้มงวดในการระมัดระวังป้องกันทั้งการสวมหน้ากากอนามัยเจลฆ่าเชื้อ การตรวจคัดกรองเบื้องต้นของสถานประกอบการทุกระดับ และการเว้นระยะห่าง ซึ่งที่ผ่านมา ประชาชนพร้อมใจกันดูแลตนเองและส่วนรวมได้เป็นอย่างดี

ไทม์ไลน์ของการผ่อนปรนระยะที่ 2 ก็มีปฏิบัติการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน นั่นคือ 8-12 พ.ค.รับฟังความคิดเห็นและประเมินสถานการณ์ 13 พ.ค.ซักซ้อมความเข้าใจ 14 พ.ค.ยกร่างมาตรการผ่อนปรน และ 17 พ.ค.เริ่มการผ่อนปรนระยะที่ 2

การคลายล็อกดาวน์ในธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นั่นแสดงว่าประเทศไทยมีความปลอดภัยจากโรคระบาดร้ายแรงในระดับหนึ่ง และยังเป็นการชุบชีวิตเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่ ประชาชนก็ได้รับคืนอาชีพทำให้มีรายได้กลับคืน

ตลาดหุ้นน่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเศรษฐกิจจริงแน่นอน และคงจะเป็นการยืนยันว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว