ลิงหลอกเจ้า ?

*สิ่งที่ทำให้ “โมนิก้า” ไม่เข้าใจมากสุดสำหรับการลงทุนเที่ยวนี้ น่าจะอยู่ที่ประเด็นการขึ้นลงของดัชนีดาวโจนส์ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เมกเซนส์เอาเสียเลย เดี๊ยนเลยจับทิศทางการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยไม่ถูก และต้องพึ่งพิงการชี้นำจากตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก จึงเป็นที่มาของการย้ำหัวหมุดเรื่องความผันผวนของตลาดหุ้นไทยจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สิ่งที่ทำให้ “โมนิก้า” ไม่เข้าใจมากสุดสำหรับการลงทุนเที่ยวนี้ น่าจะอยู่ที่ประเด็นการขึ้นลงของดัชนีดาวโจนส์ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เมกเซนส์เอาเสียเลย เดี๊ยนเลยจับทิศทางการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยไม่ถูก และต้องพึ่งพิงการชี้นำจากตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก จึงเป็นที่มาของการย้ำหัวหมุดเรื่องความผันผวนของตลาดหุ้นไทยจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

*เนื่องจากการฝ่าทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,300 จุด ไม่น่าจะง่ายเหมือนแนวต้านก่อน ๆ ที่วิ่งฝ่าขึ้นมาได้ ผนวกกับนั่งดีดลูกคิดจน “นิ้วหงิก..นิ้วงอ” ก็ไม่มีตัวเลขไหนซัพพอร์ตเอาเสียเลย “โมนิก้า” ถึงมองเกมหุ้นในช่วงหลัง ๆ ออกไปในทาง “ลิงหลอกเจ้า” เสียมากกว่า และทำให้รูปแบบการเข้าทำเร็วเป็นทางออกที่ดีสุด เพราะเป็นการลดความเสี่ยงได้ดีสุด โดยเฉพาะในภาวะที่ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่างเจ้าค่ะ

*สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นเกิดจาก “พญาอินทรี” ไปโดนตัวไหนมาก็ไม่รู้ ต่อจากนั้นเกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก พร้อมกับพาลหาเรื่องรีดไถภาษีจาก “พญามังกร” ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าจะร่วมมือร่วมใจช่วยกันพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลก แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงละครตบตาชาวโลกอีกเช่นเคย “โมนิก้า” ถึงมองประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงมายาคติที่นักเล่นต้องอ่านเกมให้ออกตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนะจ๊ะ

*เหมือนกับการทรุดตัวของดัชนีก่อนจะปิดตัวไปที่ระดับ 1,257.98 จุด ลบไป 20.65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.62 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการ take profit เหมือนรอบก่อน ๆ เพียงแต่ในจังหวะนี้ไม่มีมุมให้เล่นต่อยาว ๆ จึงน่าจะเห็นการสะบัดตัวไปมาของดัชนีถี่ขึ้น และได้แต่หวังในใจลึก ๆ ว่าดัชนีจะยังรักษาฐานแนวรับสำคัญบริเวณ 1,250 จุดได้อย่างเหนียวแน่น หรือในกรณีแย่สุดคงไม่หลุดแนวรับ 1,200 จุดนะตัวเอง

*คล้ายกับกรณีของน้องแบม BAM โดนขายหุ้นทิ้งแบบไม่ดูดำดูดี 3 วันติด จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 22.10 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.39 พันล้านบาท ล้วนมาจากธุรกิจผิดแผนไปจากที่วางไว้ ส่งผลให้นักเล่นขายหุ้นทิ้งเพื่อลดความเสี่ยงออกมาเรื่อย ๆ จวนเจียนจะหลุดแนวรับแรกบริเวณ 22 บาทรอมร่อแบบนี้ บอกเลยว่ามีโอกาสที่จะหลุดลงไปถึงเส้น 200 วันที่บริเวณ 20.80 บาทนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของน้องมิ้น MINT ทะยานขึ้นแบบกลวง ๆ โดยไม่มีสตอรี่ที่จับต้องได้เป็นแบ็กอัพ สุดท้ายก็โดนกลไกของตลาดหุ้นลงโทษอยู่ดี “โมนิก้า” มองยังเป็นเกมหลอกไปทุบเหมือนที่ผ่านมา จึงไม่มีประโยชน์ในการอธิบายให้มากความ เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาโต ๆ ว่าธุรกิจโดนไวรัสมรณะเล่นงานหนักเหลือเกิน ส่งผลให้การลงมาปิดที่ 18.90 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.13 พันล้านบาท ถือว่าบุญกะลาหัวแล้วล่ะค่ะ

*อีกรายที่ทรุดหนักจนน่าตกใจ “โมนิก้า” คงมองย้อนกลับไปที่หุ้นเดินเรือ PSL โดนกระหน่ำขายแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลย จนราคาหุ้นเปิดกระโดดลง 2 วันติด จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 2.98 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 9.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136 ล้านบาท กลายเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นให้เดี๊ยนต้องหันไปมองโลว์เก่าที่บริเวณ 2.40 บาทอีกครั้ง ว่าเที่ยวนี้จะรับอยู่ไหม ? เพราะสัญญาณหลายอย่างไม่ดีเอาเสียเลยเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องชำเลืองตามองหุ้น RS เพื่อชี้ให้เห็นแรงขย่มเที่ยวนี้หนักเหลือเกิน หุ้นเลยลงมากองอยู่ที่ 9.70 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196 ล้านบาท พร้อมกับหลุดแนวรับระยะสั้นหมดทุกแนวแบบนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะทรุดตัวลงมาถึง 8.60 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับระมัดระวังการช้อนหุ้นเที่ยวนี้มากเป็นพิเศษนะคะ

*ขนาดหุ้นที่มีเจ้ามือคอยหนุนหลังอย่าง CHAYO ยังเกิดอาการง่อยเปลี้ยเพลียแรง เพราะอากาศร้อนจัดปลัดบอกได้เลย “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.75 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 91 ล้านบาท มันเป็นผลมาจากสตอรี่ไม่ขลังเหมือนเมื่อก่อน ผนวกกับเหลืออัพไซด์ให้ไปต่อไม่เยอะ จึงโดนขายทำกำไรเพื่อโยกเงินไปเล่นหุ้นตัวอื่นไงล่ะคะ

Back to top button