SET สัปดาห์นี้ Sideway แนะลดเก็งกำไรหากหลุด 1,250 จุด ชู BEM, AWC, MAKRO หุ้นเด่น
โบรกฯคาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway แนะนำลดการเก็งกำไรหากดัชนีหลุด 1,250 จุด พร้อมชูหุ้นเด่น BEM, AWC และ MAKRO
Weekly outlook: “Sideway” ต้าน 1,280/1,301 จุด รับ 1,250/1,230 จุด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (11-15 พ.ค.63) คาดตลาดหุ้นไทย ‘Sideway’ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ทางฝั่งตะวันตกดีขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ และยุโรป ทรงตัวในระดับต่ำเพียงแค่ 2% และไม่ถึง 1% ตามลำดับ นำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการ Lockdownเบื้องต้น แต่ทางฝั่งสิงคโปร์ และรัสเซีย ยังน่ากังวล หลังยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้องจับตากันต่อไป ทั้งนี้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเริ่มชัดเจนขึ้น เห็นได้ชัดจากตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐฯทีหดตัวแรง ผสานภาคการผลิตและบริการในยูโรโซนที่ย่ำแย่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกใน 2Q20 ไม่สดใส
นอกจากนี้ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังปธน. Trump เผยจะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มเติม เนื่องจากจีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 รวมถึงจะตรวจสอบว่าจีนได้ท าตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ในการนำเข้าสินค้าในจ านวนที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ซึ่งถ้อยแถลงที่กดดันจากปธน.Trump ส่งผลให้ล่าสุด นายหลิว เหอ รองนายกฯจีน หารือทางโทรศัพย์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้า และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ โดยเน้นย้ำความตั้งใจทีจะดำเนินตามข้อตกลงทีได้ทำไว้ รวมถึงทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเจรจากันต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่มีโอกาสที่ปธน. Trump จะใช้ประเด็นการค้ากดดันจีนเพิ่มเติมได้
เนื่องจากนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ Covid-19 รุนแรงจนต้องมีการปิดเมืองในสหรัฐฯ ทำให้คะแนนความนิยมของ ปธน.Trump ลดลงต่อเนื่อง จึงอาจใช้ประเด็นนี้ในการเรียกคะแนนนิยมของตนได้ จะถ่วงจิตวิทยาการลงทุนเป็นระลอก ส่วนปัจจัยภายใน ผลประกอบการ 1Q20 ของกลุ่ม Real Sector จะทยอยรายงานออกมาต่อเนื่อง โดยจาก 105 บริษัทที่มีคาดการณ์จาก Consensus คาดรายงานกำไรสุทธิรวมที่ 5.7 หมื่นลบ. -31.4%y-y -20.7%q-q ถ่วงจากกลุ่มโรงกลั่นและท่องเที่ยว
ขณะที่แนวโน้ม 2Q20 ที่ไม่สดใส ผสานกับการฟื้นตัวของไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่ชัด ทำให้เห็นสัญญาณการปรับลดประมาณการก าไรตลาดลงต่อเนื่อง โดยล่าสุด Consensus คาดการณ์ EPS ของ SET ปี 2020-21 ลงมาสู่ 73.06 และ 88.32 บาท/หุ้น ซึ่งเราประเมินจากจุดนี้ไปอีก 3 เดือน มีโอกาสที่ตลาดจะปรับลด EPS ลงใกล้เคียงคาดการณ์ของเราที่ 65.6 และ 78 บาท/หุ้น จึงมองจะเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทยในอีก 1 ไตรมาสข้างหน้าได้
ส่วนปัจจัยอื่นๆ ติดตาม 1)การประกาศ MSCI Rebalance รอบ 12 พ.ค. มีผล 29 พ.ค. Nomura คาดหุ้นที่จะถูกนำเข้าคำนวณใน MSCI Global Standard รอบนี้ ได้แก่ AWC, KTC, TOA ขณะที่หุ้นที่คาดจะหลุดจากการคำนวณ คือ BANPU และ 2)รายงาน GDP 1Q20 ของสหราชอาณาจักร 12พ.ค. Nomura คาดที่ -3.7% จาก 0.0% ในไตรมาสก่อน
กลยุทธ์การลงทุน: ตลาดหุ้น EM-Asia เริ่มปรับฐาน หลังปัจจัยพื้นฐานเริ่มอ่อนแอลง และเศรษฐกิจ EM จะมี Lagtime ของเศรษฐกิจที่จะเริ่มแย่ลงตาม DM ภาพเศรษฐกิจและกำไร ที่อ่อนแอ กำลังสะท้อนออกมาเป็นแรงถ่วงดัชนี จึงเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน ใช้ 1250จุด เป็นจุดหมุนออกลดการเก็งกำไร กรณีหลุดระดับดังกล่าว
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ BEM, AWC, MAKRO ส่วนสัปดาห์ก่อน KKP, TISCO ให้ผลตอบแทน -5.85% แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน -2.74%
1) BEM (Trad) : การทยอย Unlock กิจกรรมทางเศรษฐกิจ หนุนแรงเก็งกำไร
2) AWC (Trad) : เก็ง MSCI ประกาศนำเข้าดัชนี ในรายงาน 12 พ.ค. นี้
3) MAKRO (Trad) : ผลประกอบการน่าจะเด่นสุดในกลุ่ม