ฝรั่งขาย 9 เดือนติด
*แฟนคลับหลายคนอาจสงสัยถึงท่าทีที่ “โมนิก้า” มีต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงหลัง ๆ มักแสดงความคิดเห็นออกไปในโทนลบมากกว่าปกตินั้น ก็เป็นการประเมินจากสตอรี่ที่ปรากฏให้เห็นในแต่ละช่วงไม่เด่นเอาเสียเลย แถมบางครั้งต้องนำเรื่อง ค.ว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ) มาเป็นตัวช่วยในการหาข้อสรุปที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงทำให้เดี๊ยนมักตั้งคำถามถึงสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นประจำไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*แฟนคลับหลายคนอาจสงสัยถึงท่าทีที่ “โมนิก้า” มีต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงหลัง ๆ มักแสดงความคิดเห็นออกไปในโทนลบมากกว่าปกตินั้น ก็เป็นการประเมินจากสตอรี่ที่ปรากฏให้เห็นในแต่ละช่วงไม่เด่นเอาเสียเลย แถมบางครั้งต้องนำเรื่อง ค.ว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ) มาเป็นตัวช่วยในการหาข้อสรุปที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงทำให้เดี๊ยนมักตั้งคำถามถึงสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นประจำไงล่ะคะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ไม่มีเรื่องไหนชัดเจนเลยสักอย่าง และความไม่ชัดเจนตรงนี้แหละ! กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับความผันผวนที่รุนแรงต่อไป (ขึ้นไม่สุด ลงไม่ลึก) ซึ่งเป็นผลมาจาก “ข่าวดี” กับ “ข่าวร้าย” ผสมปนเปกันตลอดเวลา จนมองไม่เห็นทางออกที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นยาว ๆ อีกแล้วน่ะซี
*ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับท่าทีของฝรั่งหัวทองที่ยึดแนวทางทิ้งหุ้นไทยแบบไม่แยแส ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้เชื่อว่าหุ้นไทยกำลังเดินมาถึงทางตัน (ชั่วคราว) และต่อจากนี้จะเห็นแรงเทขายทยอยออกมาเรื่อย ๆ จนการวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,300 จุดกลายเป็นเรื่องยากในทันที เพราะผู้เล่นแต่ละกลุ่มเริ่มมีความคิดเห็นไปคนละทาง จึงลงเอยด้วยการขายทิ้งเพื่อทำการแยกทางนะตัวเอง
*นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฝรั่งหัวทองขายหุ้นไทยทิ้ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 62 สาดออกมามากถึง 5.42 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นก็เป็นการขายต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมเบ็ดเสร็จขายหุ้นไทยเป็นเวลานานถึง 9 เดือน และเมื่อย้อนกลับไปดูยอดขายรวมในปี 61 ที่อยู่ในระดับ 2.87 แสนล้านบาท เทียบกับยอดขายรวมปี 62 ที่อยู่ในระดับ 4.52 หมื่นล้านบาท (ช่วงต้นปีซื้อไว้เยอะ) ต่อจากนั้นมาดูในช่วง 4 เดือนกว่าปี 63 ฝรั่งหัวทองสาดหุ้นทิ้งมากถึง 1.70 แสนล้านบาท มันเป็นภาพที่น่ากลัวสุด ๆ นะจะบอกให้
*ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่าฝรั่งหัวทองจะไม่ร่วมขบวนรถไฟเหาะตีลังกาเที่ยวนี้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อดูรูปแบบการขายหุ้นเพื่อดึงเงินกลับเป็นเวลานานหลายเดือน “โมนิก้า” จึงเกิดความรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาอีกครั้งว่าดัชนีจะประคองตัวได้อีกนานแค่ไหน ? เพราะวันศุกร์ที่ผ่านมาแสดงอาการขาแข้งสั่นหนักมากตลอดทั้งวัน ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,266.02 จุด บวกไป 8.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.40 หมื่นล้านบาทพะยะค่ะ
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเจ้าจำปี THAI น่าจะเป็นไฮไลต์สำคัญที่บอกถึงอนาคตสายการบินได้เป็นอย่างดีว่า “ได้ไปต่อ” หรือ “หยุดแค่นี้” เพราะการถมเงินใส่เข้ามาเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งที่ยังไม่สามารถอุดรูรั่วที่เกิดขึ้นได้ สุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการบากหน้าเข้าไปหา ก.คลัง เพื่อให้เข้ามาช่วยอุ้มกระเตงอยู่ดี (หลายรอบแล้วนะ) เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.05 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาท น่าจะเป็นการยื้อชีวิตไปวัน ๆ เจ้าค่ะ
*เรื่องดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นน้องใหม่ SHR ขึ้นมาในทันที เพราะเข้าตลาดหุ้นมาเป็นเวลา 6 เดือน แต่ราคาหุ้นไม่เคยเผยอหน้าขึ้นมาให้เห็นในกระดาน most gainer อีกเลย ผนวกกับวิถีหุ้นวนเวียนอยู่กับการปักหัวลงลูกเดียว เดี๊ยนเลยอยากเตือนความจำแฟนคลับไว้สักนิดหนึ่งว่า หุ้นตัวนี้ทำ IPO ที่ราคา 5.20 บาท โดยมีเอฟเอใหญ่สองรายคือ ธ.ซีไอเอ็มบี กับ ธ.กรุงไทย ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานล่าสุดยืนอยู่ที่ 1.93 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท มันน่าสนใจไหมเอ่ย ?
*ส่วนรายที่ออกอาการเครื่องสะดุดเป็นเวลา 2 ปีครึ่งอย่างหุ้น BH กลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องตีแวลูแบบกลาง ๆ เพื่อความคล่องตัวในการเล่น เพราะของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่าปีนี้ผลงานพลาดเป้าเยอะอย่างแน่นอน แถมผลงานในไตรมาส 1 ก็แสดงตัวเลขที่น่าผิดหวัง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 112 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 92 ล้านบาท ท่ามกลางพี/อี 26 เท่าในภาวะลงทุนแบบนี้..น่าสนใจจริงเหรอ ?
*ตบท้ายที่หุ้นถ่านหิน BANPU เพื่อชี้ให้เห็นคนชอบหุ้นตัวนี้ก็ชอบเล่นกันเหลือเกิน “โมนิก้า” เลยเห็นวอลุ่มเทรดหนาแน่นในหลักร้อยล้านทุกวัน จึงอยากให้แฟนคลับช่วยกันนึกหน่อยว่าหุ้นตัวนี้มีอะไรดี ? รวมทั้งการยืนปิดที่ระดับ 5.50 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 210 ล้านบาท ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่านี่คือหุ้นดาวดับ มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่จะได้รับจริงไหม ?..ลองถามใจเธอดู..อิอิอิ