LIT ผนึกคู่ค้าก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกหัวลาก

LIT ผนึกคู่ค้าก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่ ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง จัดหารถบรรทุกหัวลาก เพื่อใช้ในการส่งก๊าซ NGV มูลค่าสัญญาเกือบ 40 ล้านบาท ด้านผู้บริหารมั่นใจปีนี้กำไร-รายได้โต 30% มองแนวโน้มครึ่งปีหลังยอดปล่อยกู้พุ่งกระฉูด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ได้ร่วมมือกับคู่ค้า เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่นอกเหนือจากธุรกิจไอที โดยให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง จัดหารถบรรทุกหัวลาก เพื่อใช้ในการส่งก๊าซ NGV มูลค่าสัญญาเกือบ 40 ล้านบาท

นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ LIT เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับคู่ค้า และถือเป็นการก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่นอกเหนือจากกลุ่มไอที โดยบริษัทได้เข้าไปให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ / ลิสซิ่ง มูลค่าสัญญาเกือบ  40 ล้านบาท เพื่อจัดหารถเพื่อการพาณิชย์ เป็นชนิดรถบรรทุกหัวลาก เพื่อใช้ในการส่งก๊าซธรรมชาติ (NGV) สำหรับยานยนต์จากจุดสถานีต้นทางไปถึงปลายทาง

โดยคาดว่าจะทยอยจัดหาเพื่อนำไปทดแทนยานยนต์คันเดิมได้ครบทั้งเป้าหมายภายใน 3-6 เดือน ซึ่งแนวโน้มในอนาคตอาจมีการขยายความร่วมมือเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับความต้องการของคู่ค้าซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน

 

“การให้สินเชื่อนอกเหนือจากกลุ่มไอทีของบริษัทในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า  ลีซ อิท ไม่ใช่ ลิซ ไอที และทำให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทโตขึ้นตามแผนงานที่วางเอาไว้ โดยในปีนี้ บริษัทเตรียมเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าภาคเอกชนให้มากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต” นายสมพลกล่าว

สำหรับตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอียังมีช่องว่างให้ขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดยบริษัทมีแผนงานร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าเดินหน้าเจาะตลาดใหม่ เพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อนอกเหนือจากสินค้าไอที โดยแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้รัฐบาลจะเดินหน้าขยายการลงทุนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้าภาครัฐ มีความต้องการสินเชื่อ เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนมากขึ้นและเข้ามาติดต่อขอรับสินเชื่อกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีจุดแข็ง คือ เข้าใจความต้องการของเอสเอ็มอี  จึงสามารถเสนอบริการอนุมัติเงินกู้ให้ลูกค้าได้รวดเร็ว ให้วงเงินสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

โดยในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทรุกตลาดภาคเอกชนอย่างหนัก โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มเป็น 30% จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 20% ของสินเชื่อรวมเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังคงเป็นสินเชื่อที่ปล่อยให้กับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง บริษัทมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ และมีการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถสกรีนลูกค้าที่มีศักยภาพ ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำเพียง 2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 3-4% ของสินเชื่อรวม และบริษัทจะรักษาระดับเอ็นพีแอลไม่ให้เกิน 2%

สำหรับแนวโน้มสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และพอร์ตสินเชื่อน่าจะสามารถแตะที่ระดับ 1,150 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอียังมีสูง และบริษัทมั่นใจว่าโปรดักท์ทางการเงินที่มีความหลากหลาย ปล่อยกู้ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อรวดเร็ว ให้วงเงินสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว

ขณะที่บริษัทมั่นใจว่าปีนี้กำไร และรายได้จะเติบโต 30% จากปีก่อน โดยมาจากพอร์ตสินเชื่อที่ปีนี้คาดจะเติบโตราว 30% โดยไตรมาสแรกเติบโตตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ ซึ่งทั้งปีนี้คาดจะรับซื้อหนี้ตามเป้าหมาย 3,000 ล้านบาท หลังจาก 5 เดือนแรกซื้อหนี้ได้แล้ว 1,200 ล้านบาท จากทั้งปีก่อน 1,800 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตได้ตามเป้าที่ว่างไว้ และไม่กังวลเรื่องคุณภาพหนี้

 

ขณะที่ LIT ปิดตลาดวันที่ 11 ส.ค.58 ราคาอยู่ที่ 6.50 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.99% สูงสุดที่ 6.85 บาท ต่ำสุดที่ 6.45 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 13.61 ล้านบาท

Back to top button