TIPCO ปนเปื้อนยางมะตอย
เมื่อต้นปี 2563 บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO เพิ่งโชว์งบงวดปี 2562 จากขาดทุนพลิกมามีกำไรสุทธิสูงถึง 207 ล้านบาท เนื่องจากได้ลูกเทพอย่างบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ซึ่ง TIPCO ถือหุ้นอยู่ 23.46% หนุนกำไร...
สำนักข่าวรัชดา
เมื่อต้นปี 2563 บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO เพิ่งโชว์งบงวดปี 2562 จากขาดทุนพลิกมามีกำไรสุทธิสูงถึง 207 ล้านบาท เนื่องจากได้ลูกเทพอย่างบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ซึ่ง TIPCO ถือหุ้นอยู่ 23.46% หนุนกำไร…
ทำเอานักลงทุนที่มีหุ้น TIPCO ติดอยู่ในพอร์ตยิ้มแก้มปริไปตาม ๆ กัน…
แต่ดูเหมือนนักลงทุนจะดีใจได้แป๊บเดียว…เพราะล่าสุดงบไตรมาส 1/2563 TIPCO พลิกกลับมาขาดทุนอีกครั้ง ด้วยตัวเลขสูงถึง 294 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท
ถ้าถามหาตัวการที่ทำให้ TIPCO ขาดทุนบักโกรกอย่างนี้…ต้นตอหลักมาจากรับรู้ขาดทุนเงินลงทุนในบริษัทร่วม 188 ล้านบาท
ซึ่งบริษัทร่วมที่ว่านี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น TASCO ที่งบไตรมาส 1/2563 พลิกมาขาดทุนสูงถึง 784 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 717 ล้านบาท
เนื่องจากมียอดขายยางมะตอยลดลงอยู่ที่ 320,000 ตัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 398,000 ตัน ส่งผลให้มีรายได้จากการขายและบริการ 5,111 ล้านบาท ลดลง 27.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 7,091 ล้านบาท
TIPCO จึงต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก TASCO ตามสัดส่วนการถือหุ้น…
ทำให้ TASCO เดิมฉายาลูกเทพของ TIPCO…เปลี่ยนเป็นลูกพาซวยในไตรมาสนี้แทน…
กลายเป็นน้ำผลไม้ปนเปื้อนยางมะตอย..!!
แต่งานนี้จะโยนบาปให้ลูกอย่างเดียวก็คงไม่ถูก…เพราะถ้าไปดูในแง่รายได้จากการขายของ TIPCO จะเห็นว่า ลดลง 19% อยู่ที่ 765 ล้านบาท
แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 500 ล้านบาท ลดลง 7% จากกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร และรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์จากพืช ผัก และผลไม้ 261 ล้านบาท ลดลง 33% จากการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริการเพิ่มขึ้น 50% อยู่ที่ 136 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ และค่าใช้จ่ายจากการหยุดกระบวนการผลิตในธุรกิจผลิตภัณฑ์จากพืช ผัก และผลไม้ เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนวัตถุดิบ
นอกจากนี้ ยังขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพ 2 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 31 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่า
เท่ากับว่า ไตรมาสนี้นอกจากบริษัทลูกจะไม่ดี ฉุดให้ TIPCO แย่แล้ว…ตัวเองก็ไม่ดีเหมือนกัน..!!
เรียกว่า เจอ 2 เด้งเลยทีเดียว…
ส่วนถ้าถามว่าแม่ลูกคู่นี้ใครเด่นกว่ากัน…นาทีนี้คงตอบยาก
ในมุม TASCO ยังมีปัจจัยกดดันจากมาตรการล็อกดาวน์ของหลาย ๆ ประเทศเพื่อหนีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563
ส่วน TIPCO ต้องเผชิญกำลังซื้อภายในประเทศเทศที่ยังไม่ฟื้น ส่งผลให้ตลาดน้ำผลไม้เติบโตในระดับต่ำ รวมทั้งยังมีภาษีความหวานตามมาหลอกหลอนอีก
นั่นทำให้ผลประกอบการในปี 2563 ของแม่ลูกคู่นี้อาจไม่สบอารมณ์นักลงทุน…
แต่ถ้าอยากถือเพื่อรับเงินปันผลงาม ๆ ก็ไม่ว่ากัน โดย TIPCO ยีลด์อยู่ที่ 5.91% ส่วน TASCO ยีลด์ปาเข้าไป 7.89% แล้ว
…อิ อิ อิ…