สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 พ.ค. 2563

         — ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 25,000 จุดเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับข่าวการเปิดภาคธุรกิจในหลายประเทศ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,548.27 จุด พุ่งขึ้น 553.16 จุด หรือ +2.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่3,036.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.36 จุด หรือ +1.48% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,412.36 จุด เพิ่มขึ้น 72.14 จุด หรือ +0.77%

          — ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการประกาศจัดตั้งกองทุนขนาด 7.50 แสนล้านยูโร (8.265  แสนล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจสหภาพยุโรป (EU) ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

          ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.24% ปิดที่ 349.75 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,657.69 จุด เพิ่มขึ้น 153.04 จุด หรือ +1.33%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,688.74 จุด เพิ่มขึ้น 82.50 จุด หรือ +1.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,144.25 จุดเพิ่มขึ้น 76.49 จุด หรือ +1.26%

          — –ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) และปิดที่ระดับแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 แม้นักลงทุนยังคงกังวลกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐ–จีน อันเนื่องมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการที่จีนเสนอใช้กฎหมายความมั่นคงของชาติในฮ่องกง

          ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,144.25 จุด เพิ่มขึ้น 76.49 จุด หรือ +1.26%

          — สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า รัสเซียอาจจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงในเดือนก.ค.

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.43 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 34.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

          — สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นติดต่อกันสองวันทำการ และล่าสุดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 25,000 จุดอีกครั้งเมื่อคืนนี้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่1,726.8 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 16.2 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 17.757 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.8 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 878.1 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.40 หรือ 0.4% ปิดที่ 1,978.40 ดอลลาร์/ออนซ์

          — ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.70 เยน จากระดับ 107.52 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9688 ฟรังก์ จากระดับ 0.9647 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3779 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3757 ดอลลาร์แคนาดา

          ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0989 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0994 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2253 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2343 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6605 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6674 ดอลลาร์สหรัฐ