ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
สรุปตลาดภาคเช้า
ตลาดภาคเช้าปิดปรับตัวลดลง สวนทางกับตลาดรอบบ้านที่เริ่มรีบาวด์ สำหรับตลาดไทยถูกปัจจัยลบจากความกังวลต่อการลดค่าเงินหยวน และความกังวลต่อราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงโดยเฉพาะหุ้น PTT ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง -19.55 จุด มาที่ระดับ 1,388.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 2.6 หมื่นล้านบาท
แนวโน้ม ภาคบ่าย
มองดัชนีมีแนวโน้มทรงตัวในภาคบ่าย จากมุมมองเชิงเทคนิคตลาดสามารถยืนได้ที่แนวรับระดับ 1,387 จุด สำหรับระยะกลางมองโมเมนตัมลบมีโอกาสส่งให้ SET ลงไปทดสอบ Low รอบก่อนที่ระดับ 1,375 จุด สำหรับระยะสั้น มองหุ้นที่น่าสนใจในการซื้อสวนดัชนี คือกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยมองปัจจัยที่กระทบตลาดเป็นปัจจัยภายนอกประเทศ แต่ปัจจัยหลักของกลุ่มนี้อยู่ที่เม็ดเงินภาครัฐ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
MILL ราคาปิด 1.91 บาท
แนวรับ 1.88 บาท
แนวต้าน 2.08 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 1.85 บาท
กราฟ MILL ดีดตัวขึ้นเป็น Tower ตัดผ่านแนว minor down trend และทำให้เกิดสัญญาณซื้อในหลายเครื่องมือ อีกทั้งปริมาณโวลุ่มที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ยังมีโอกาส follow buy ต่อเนื่องได้อีกระยะหนึ่ง โดยคาดหมายการปรับตัวขึ้นทดสอบแนว high เดิม 2.08 บาทได้ แนะนำเก็งกำไร
เด็กแนว
HFT ผลประกอบการทยอยประกาศออกมาต่อเนื่อง หาหุ้นที่กำไรเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญไม่กี่บริษัท บางแห่งกำไรออกมาดี แต่ราคาวิ่งรับไปล่วงหน้าแล้วทำให้ไร้ประโยชน์ จึงต้องหันมาหาจอมยุทธ์ฮั่วฟง เจ้าเก่า เพราะผลกำไร Q2 เติบโตระเบิดระดับ 80% แถมในครึ่งปีหลังยังได้ประโยชน์จากค่าเงินอ่อนทำให้การส่งออกยางรถมีมากขึ้น และเมื่อบริษัทเป็นเจ้าใหญ่ด้านน้ำให้ได้เปรียบการแข่งขันอยู่ดี อีกทั้งต้นทุนยางดิบต่ำลงเยอะมาก และราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลบวก กินส่วนต่าง margin ดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา จึงคาดหมายไว้ได้เลยว่าผลงานยังคงดีต่อเนื่อง เด็กแนวว่าหุ้นตัวนี้น่าจับตาอนาคตข้างหน้า เพราะนอกจากอัตรากำไรเพิ่มแล้ว ส่วนของทุนแข็งแกร่งมาก หลายคนไม่เคยดูคิดว่าบริษัทน่าจะมีขนาดเล็ก และไม่แข็งแกร่งอะไรนักหนา แต่ถ้าพลิกไปดูโครงสร้างทุนจะเห็นสินทรัพย์สูงถึง 2.5 พันล้านบาท และหนี้สินต่ำฝุดๆ อีกทั้งมีกำไรสะสมมากกว่า 1.1 พันล้านบาท มากมายมหาศาล ดังนั้นฟันธงไว้ได้เลยว่าปันผลจะจ่ายในอัตราสูงไม่น้อยกว่า 4% เนื่องจากไม่มีภาระในการลงทุนเพิ่มขึ้นในปีนี้ เพราะโรงงานใหม่เริ่มผลิตแล้วนั่นเอง
ด้านสัญญาณกราฟจะเห็นการดีดตัวขึ้นผ่านเส้นแนวต้านสำคัญที่ 4 บาท ขึ้นไปแล้ว หมายถึงการย้ายฐานของราคาไปยังกรอบที่สูงขึ้นระหว่าง 4.0-4.50 บาท สอดคล้องกับ EPS ในปีนี้ที่คาดว่า 0.45 บาท และถ้าให้ PE 12 เท่าจะได้เป้า 5.50 บาท กราฟดูดีและเป้าพื้นฐานไกล เทคนิคเป็นใจ แนะเก็งกำไรมีวินัยก็แล้วกัน