“สรรพสามิต” ยันไม่ลดภาษีรถยนต์ใหม่ 50% ลั่นเกิดผลเสียมากกว่าผลดี!

"สรรพสามิต" ปัดตกลดภาษีรถยนต์ใหม่ 50% ลั่นผลเสียมากกว่าผลดี!


นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว และตัวแทนภาคสถาบันการเงิน ลิสซิ่ง ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ตามข้อเสนอของภาคเอกชน ซึ่งหลังจากที่ข่าวออกไปส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างมาก

ทั้งนี้ การลดภาษีสรรพสามิตไม่ได้มีผลต่อกำลังซื้อ ไม่มีผลบวก อาจจะมีแต่ผลลบ เพราะช่วยให้คนซื้อรถในราคาถูกลงไม่มาก เช่น รถกระบะรุ่นมาตรฐาน ก็ลดราคาแค่ 2,000 บาท หรือถ้าเป็นรถซิตี้ คาร์ ก็ช่วยลดภาษีไปได้แค่ 30,000 บาทต่อคัน กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จะเป็นรถที่มีราคาสูง ซึ่งกรมไม่ต้องการลดภาษีให้ จึงไม่เหมาะสมที่จะใช้กลไกภาษีเข้าไปแทรกแซงทั้งตลาด ทำให้มูลค่ารถยนต์โดยรวมทั้งตลาดลดลงไปด้วย ไม่คุ้มค่ากัน

“ยังไงก็ไม่ลด ไม่มีประโยชน์ ยิ่งหมดโควิด-19 ก็ยิ่งไม่มีเหตุผลให้ลด วันนี้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่งกลับเข้ามาเดินได้ การเข้าไปทำอะไรที่เป็นการแทรกแซงตลาดโดยไม่จำเป็น ไม่น่าจะเป็นผลดี” นายพชร กล่าว

ด้าน นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยอมรับข้อเสนอของกรมสรรพสามิต โดยหากไม่ได้มาตรการภาษีสรรพสามิต ก็จะไปพิจารณาแนวทางอื่น เช่น จัดโปรโมชั่น ลดแลก แจก แถม หรือ ขอให้ลิสซิ่ง ลดเงินดาวน์รถใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายในระยะสั้น พร้อมกันนี้ จะขอหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดทำมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ในข้อเสนออื่น ๆ เช่น นำรถเก่ามาแลกรถใหม่ หรือ เลื่อนระยะเวลาบังคับใช้มาตรฐานยูโร 6 ออกไปก่อน ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง ต้องมาหารือร่วมกัน

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องการให้ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ว่า เนื่องจากต้องการรักษาซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไว้ ซึ่งมีแรงงานอยู่กว่า 7 แสนคน เนื่องจากช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 ยอดขายรถยนต์หายไปกว่า 50-60% และคาดว่าทั้งปี 2563 ยอดขายรถยนต์จะอยู่ที่ 50% ของเป้าหมาย 1 ล้านคัน

 

Back to top button