รับ 1,302 / ต้าน 1,360
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ต่างมองตรงกัน
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ต่างมองตรงกัน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,360 จุด และเป็นแนวต้านสำคัญ หรือผ่านได้ยากมาก ๆ
อย่างเมื่อวานนี้ขึ้นมาสูงสุด 1,362.46 จุด
ทว่า เผชิญกับแรงขายออกมาทันที
และทำให้ดัชนีย่อตัวลงมาปิด 1,352.37 จุด
อย่างที่รับทราบกับไปว่า P/E ตลาดหุ้นของเรานั้น ตอนนี้ขึ้นมาเกือบ 20 เท่าล่ะ
ตัวเลขที่ว่านี้ถือว่าแพงสุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค
ทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่า มีโอกาสที่ดัชนีจะม้วนลง หรือปรับฐานค่อนข้างแน่นอน
ส่วนจะปรับฐานตอนไหนนั้น เข้าใจว่า ตลาดเองก็คงรอ “จังหวะ” ด้วย เช่น มีปัจจัยลบภายในประเทศ หรือต่างประเทศแบบหนัก ๆ เข้ามากดดัน
ตลาดก็พร้อมจะปรับฐานทันที
ขณะที่ช่วงที่ผ่านมาดาวโจนส์จะปิดบวกเป็นส่วนใหญ่
วันไหนที่ปิดร่วงลง ก็ไม่ได้ลงมาก
ส่วนหุ้นเอเชียก็ยังเขียวเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน
หรือไม่ก็ปิดบวก-ลบ สลับกันไป
เลยยังไม่ค่อยเป็นจังหวะของการปรับฐานมากนัก
ประกอบกับในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และต้นสัปดาห์นี้ จะพบว่า มีการปรับพอร์ตลงทุนกลุ่มหุ้น หรือ Sector Rotation หรือจากกลุ่มหุ้นหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง
เช่น ก่อนหน้านี้เข้าไปลงทุนในกลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มรับเหมา กลุ่มขนส่ง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มโรงไฟฟ้า
และกลุ่มสื่อสาร ค่อนข้างมาก
ล่าสุด มีการปรับพอร์ตเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร
อย่างเมื่อวานนี้กลุ่มแบงก์เขียวเกือบยกกลุ่ม (ยกเว้น LHFG ปิดเท่าวันก่อน)
นำโดย 4 แบงก์ใหญ่ BBL KBANK SCB และ KTB
ส่วนหุ้นแบงก์กลางเล็กก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน ทั้ง TISCO และ KKP ราคาขึ้นแข็งแรงมาก กราฟเทคนิคสวยทั้งคู่
ทว่า การขึ้นของกลุ่มธนาคาร ก็ยังไม่สามารถช่วยผลักดันดัชนีฝ่าแนวต้าน 1,360 จุดไปได้
เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า เป็นการสลับกลุ่มหุ้นที่ราคาขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว และหันไปลงทุนในกลุ่มราคายัง “แลกการ์ด” หรือต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน
นอกจากกลุ่มธนาคารแล้ว
เริ่มเห็นการไล่ซื้อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มเกษตร ด้วยเช่นกัน
รวมถึงหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่ราคายังแลกการ์ดด้วย
การเปลี่ยนกลุ่มเล่นไปแบบนี้ มีการวิเคราะห์ว่า น่าจะไปอีกสักระยะหนึ่ง
หรือจนกว่าตลาดจะเกิดการปรับฐาน
เช่นเดียวกัน คือ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ดีดลูกคิดประเมินว่า แนวรับสำคัญ (หากปรับฐาน) คือ 1,300 จุด
หากทางเทคนิคก็จะเหนือ 1,300 จุดเล็กน้อย หรือราว ๆ 1,302–1,315 จุด
แต่ยังไม่เห็นการคาดการณ์ว่า ดัชนีจะหลุด 1,300 จุด
(การขยายเวลาหลักเกณฑ์ชั่วคราวทั้งชอร์ตเซล, ซิลลิ่ง-ฟลอร์ และช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาเสนอซื้อขายในแต่ละวัน หรือ Daily Price Limit ออกไป เป็นอีกสาเหตุทำให้เกิดการปรับฐานไม่รุนแรง)
เว้น แต่จะเกิด Negative surprise จริง ๆ
หรือมีปัจจัยลบเข้ามากระทบอย่างแรง เช่น โควิด-19 กลับมาระบาดรอบสอง และหนักกว่ารอบแรก
หรือปัจจัยต่างประเทศที่กระทบหนักหน่วงขึ้น