3 แบงก์ใหญ่วิ่งคึก-วอลุ่มทะลัก! คาดเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย Fund Flow ไหลเข้า-หุ้นต่ำบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  3 หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นแรงนำโดย KBANK,BBL,SCB โดยธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ณ เวลา 10.49 น. อยู่ที่ระดับ 111.00 บาท บวก 11.00 บาท หรือ 11.00% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.83 พัน ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 171.69 ล้านบาท

ส่วนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ณ เวลา 10.51 น. อยู่ที่ระดับ 125.00 บาท บวก 9.50 บาท หรือ 8.23% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.89 พันล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 217.33 ล้านบาท

ด้านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ณ เวลา 10.52 น. อยู่ที่ระดับ 84.75 บาท บวก 8.25 บาท หรือ 10.78 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 116.27 ล้านบาท

 

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคระาห์วันนี้(4มิ.ย.63)ว่า มีมุมมองเป็นบวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,390 – 1,400 จุด ตามคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดจากผลกระทบ Covid-19 ไปแล้วและจะฟื้นตัวขึ้นหลังหลายประเทศผ่อนปรน Lockdown รวมถึงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นอกจากนี้ดัชนียังได้แรงหนุนจากตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นสู่ระดับ 55 จุด รวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาดีกว่าคาดโดยลดลงเพียง 2.76 ล้านตำแหน่ง ส่งผลให้ทิศทาง Fund flow ต่างชาติพลิกกลับมาเป็น Net Buy 3.5 พันลบ. (MTD.) ซึ่งหนุนต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ ** วันนี้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสว่าจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปหรือไม่

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ให้จับตา Fund Flow หลังจากที่มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามา 3 วันติดต่อกัน ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น การปรับขึ้นรอบนี้เกือบ 400 จุด แล้วจากที่ปรับตัวลงไปราว 600 จุดก่อนหน้านี้ และตลาดดูเหมือนยังไม่ตอบรับปัจจัยลบจากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงปัจจัยการเมืองไทย ทำให้จะต้องระวังการลงทุนหลังดัชนีฯปรับขึ้นไปมาก พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด

 

ส่วนบล.เคจีไอ ระบุว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ได้จัดธีมการเลือกหุ้นที่สอดคล้องกับมุมมองตลาดของเราสี่ธีมด้วยกัน ธีมแรก คือหุ้นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์เฟสที่ 3 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้ และเฟสที่สี่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจในกลุ่มขนส่งมวลชนอย่างเช่น BEM* และ BTS* จากการที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

ธีมที่สอง คือการเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาใน 3Q63 จะช่วยหนุนราคาหุ้นอย่างเช่น AOT* และ BDMS* ซึ่งธีมนี้จะเป็นระยะยาวมากกว่าธีมการเปิดเศรษฐกิจ

ธีมที่สาม หันกลับมาหาหุ้นธนาคารอย่าง BBL* และ KBANK* ซึ่งมีโอกาสปรับขึ้นจากระดับ valuations ที่ต่ำมากในปัจจุบัน ภายใต้สมมติฐานว่าสภาพคล่องที่ล้นตลาดจะทำให้มีการซื้อขายเปลี่ยนกลุ่มเล่น (sector rotation)

และธีมที่สี่ เลือกที่จะจำกัดความผันผวนของพอร์ตด้วยการเพิ่มหุ้นโรงไฟฟ้าเช่น EGCO* ซึ่งจะได้ประโยชน์หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในเดือนนี้