“พาณิชย์” ชี้สถานการณ์ “โควิด-ราคาน้ำมัน” ฉุดเงินเฟ้อพ.ค. หด 3.44% ต่ำสุดในรอบเกือบ 11 ปี
"พาณิชย์" ชี้สถานการณ์ "โควิด-ราคาน้ำมัน" ฉุดอัตราเงินเฟ้อ เดือนพ.ค. หด 3.44% ลดต่ำสุดในรอบเกือบ 11 ปี
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อ ในเดือน พ.ค.63 อยู่ที่ 99.76 ลดลง -3.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการหดตัวในรอบ 10 ปี 11 เดือน แต่เมื่อเทียบเดือน เม.ย.63 ขยายตัว 0.01% โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 63 เฉลี่ย -1.04%
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ในเดือน พ.ค.63 อยู่ที่ 102.51 เพิ่มขึ้น 0.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง -0.30% จากเดือน เม.ย.63 และช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) เฉลี่ย 0.40%
ขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ที่ 105.05 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -0.01% แต่เพิ่มขึ้น 0.02% จากเดือน เม.ย. 63 ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 96.79 ลดลง -5.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบเดือน เม.ย.63 อยู่ที่ 0.00%
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ นอกเหนือจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังมาจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และการส่งออกที่ยังรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งอุปทานส่วนเกินของสินค้าอุตสาหกรรมที่เป็นผลจากการลดลงของอุปสงค์และสงครามการค้า
ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรแม้ยังมีปัจจัยบวกจากภัยแล้งและอุปสงค์ในประเทศ ที่เริ่มดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ แต่การลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเป็นปัจจัยที่น่าจะส่งผลต่ออุปสงค์ในภาคการผลิตและบริการอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี ดังนั้น เงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มที่จะยังหดตัว แต่ในอัตราที่ลดลง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อ ทั้งปี 2563 จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง -1.0 ถึง -0.2% (ค่ากลางอยู่ที่ -0.6%)