เซ็ตเกมที่ 1,400

*แรงซื้อกลับที่เกิดขึ้นวานนี้ทำให้รู้ว่านักเล่นส่วนใหญ่ใจยังสู้ ถึงกระโจนใส่ตั้งแต่เปิดตลาดฯ พร้อมกับยื้อยุดฉุดกระชากกับแรงขายพักใหญ่ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,418.77 จุด บวกไป 10.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.74 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่ายุทธการเซ็ตเกมหุ้นเที่ยวนี้อยู่ที่บริเวณ 1,400 จุดเป็นหลัก และถ้าย้อนข้อมูลดังกล่าวกลับไปจะเห็นว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีแรงซื้อกลับเข้ามาตรงจุดนี้เป็นประจำเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*แรงซื้อกลับที่เกิดขึ้นวานนี้ทำให้รู้ว่านักเล่นส่วนใหญ่ใจยังสู้ ถึงกระโจนใส่ตั้งแต่เปิดตลาดฯ พร้อมกับยื้อยุดฉุดกระชากกับแรงขายพักใหญ่ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,418.77 จุด บวกไป 10.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.74 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่ายุทธการเซ็ตเกมหุ้นเที่ยวนี้อยู่ที่บริเวณ 1,400 จุดเป็นหลัก และถ้าย้อนข้อมูลดังกล่าวกลับไปจะเห็นว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีแรงซื้อกลับเข้ามาตรงจุดนี้เป็นประจำเจ้าค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนีจะรุนแรงเหมือนวันก่อน ๆ เพราะตัวแปรที่เข้ามาเกี่ยวข้องมีหลายอย่าง และขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนักลงทุนสถาบันโอนเอนไปทางไหน ? เดี๊ยนถึงชอบเกาะติดเหตุการณ์ใหญ่รอบด้านว่าออกไปในโทนไหน ? จึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจอารมณ์ของผู้คนที่ออกไปในโทนบวกเป็นส่วนใหญ่นั้น มันมาจากสภาพการณ์หลายอย่างเริ่มดีขึ้นจนสัมผัสได้น่ะซี

*โดยเฉพาะเหตุการณ์ในประเทศที่หลายคนคาดหวังการปลดล็อกเฟส 4 น่าจะทำให้กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น และน่าจะช่วยให้เงินสะพัดขึ้นกว่าเดิม ย่อมทำให้ “โมนิก้า” เกิดความรู้สึกแฮปปี้มากกว่าปกติอย่างแน่นอน แต่กระนั้นก็ต้องดูเรื่องจริงที่เกิดขึ้นประกอบกันไปด้วย เพื่อเป็นการพิสูจน์แนวคิดดังกล่าวข้างต้นถูกต้องตามหลักการขนาดไหนพะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นขายไก่ CPF ถูกเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 30.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.93 พันล้านบาท ล้วนมาจากความกังวลผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ เลยมองกันว่างบไตรมาส 2 ทรุดฮวบอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ทิศทางของหุ้นโค้งตัวลงมาอีกครั้ง จึงกลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องคิดว่าจะเอาไงต่อนะคะ

*คล้ายกับกรณีของหุ้นขายยาง STA กระชากขึ้นพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ระดับ 28.50 บาท บวกไป 3.60 บาท หรือขึ้นไป 14.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.21 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นควรคิดมากขึ้นกว่าเดิมให้เยอะ ๆ หลังหุ้นขึ้นมาทำราคาสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี ผนวกกับตลาดหุ้นยังกวัดแกว่งรุนแรงตลอดเวลา เดี๊ยนเลยกังวลว่าอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นน่ะซี

*ประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงไปถึงหุ้น ACE หลังกระชากขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มพักตัวด้วยการปิดเสมอตัวที่ระดับ 4.22 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 277 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตที่เปิดโอกาสให้คนที่ตกขบวนเข้าซื้อหุ้นรอบใหม่ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองตัวเลขกำไรต่อหุ้นไตรมาส 1 ปี 2563 (0.06) โตเกือบเท่าของทั้งปี 2562 (0.09) หุ้นควรได้ไปต่อไหมล่ะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นฮอตฮิต RBF พยายามเทกตัวให้ผ่านแนวต้านบริเวณ 7 บาทมาหลายรอบ แต่สุดท้ายยังผ่านไปไม่ได้สักทีนั้น ก็กลายเป็นจุดที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับตัวเดี๊ยนไปเสียแล้ว เพราะทุกครั้งที่หุ้นย่อตัวลงไปบริเวณ 6.40 บาท หุ้นก็วิ่งกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านดังกล่าวเป็นประจำ น้องโมถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 6.90 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 280 ล้านบาท น่าจะมีอะไรให้แฟนคลับได้ตื่นเต้นอีกเจ้าค่ะ

*เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ IP หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 8.30 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือขึ้นไป 14.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของเกมหุ้นผสมกับผลงานที่คาดจะดีขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นวานนี้เว่อร์วังอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นจุดที่แมงเม่าต้องระวังให้ดีเป็นพิเศษ เพราะเคยทำให้แฟนคลับอกหักมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงไม่แน่ใจว่าเที่ยวนี้จะทำใครติดดอยบ้างเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องเกมหุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันมามองหุ้น SIMAT เพื่อทำให้แฟนคลับได้เห็นสถานการณ์ที่ผิดแผกไปจากธรรมชาติ และถ้าย้อนกลับไปดูการเลื่อนส่งงบในช่วงที่ผ่านมาเป็นที่ตั้ง เดี๊ยนยิ่งแปลกใจกับการทะยานขึ้นมาปิดที่ 3.36 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาท จึงสงสัยว่าน่าจะมีบางเรื่องที่ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ จึงอยากให้พวกขาลุยระวังไว้บ้างนะตัวเอง

Back to top button